02 149 5555 ถึง 60

 

“ไกรวิทย์” เผยจิตป่วยโรคแพนิก ฟุ้งซ่านซึมเศร้า พยายามเข้มแข็ง เลิกคิดลบ

“ไกรวิทย์” เผยจิตป่วยโรคแพนิก ฟุ้งซ่านซึมเศร้า พยายามเข้มแข็ง เลิกคิดลบ

แต่งหญิงเต็มตัวได้พักใหญ่แล้ว สำหรับ ต้อม-ไกรวิทย์ พุ่มสุโข อดีตนักร้องนักแสดงชื่อดัง ล่าสุดมาร่วมงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “สองวัยใจเดียวกัน” ครั้งที่ 2 พองานเลิก ต้อม-ไกรวิทย์ จึงมาให้สัมภาษณ์ “ข่าวสด” ถึงอาการป่วยโรคแพนิกที่กำลังรักษาอยู่ว่า ตอนนี้ดีขึ้น แต่ยังต้องไปพบหมอเป็นระยะ โชคดียังไม่ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า ส่วนใหญ่เป็นหนักช่วงเย็นและกลางคืน รู้สึกใจสั่น นอนไม่ได้ คอยพะวง พอมีอาการอะไรขึ้นมานิดนึง จะรู้สึกเป็นเยอะมาก บางทีแค่เหนื่อย หัวใจจะเต้นตึกๆ เหมือนคนเพิ่งออกกำลังกายมา เหนื่อยจะเป็นลม แต่เดี๋ยวนี้พอรู้ว่าจะเป็นปุ๊บ เราก็สูดหายใจให้ลึก ค่อยๆ ผ่อนออก เริ่มควบคุมมันได้ หมอบอกว่าถ้าเป็นไปได้ ให้จัดเวลาออกกำลังกายทุกวัน เราต้องบังคับตัวเองให้วิ่งวันละชั่วโมง

ต้อม ไกรวิทย์ กล่าวต่อว่า สาเหตุอาจเป็นเพราะเราหมกมุ่นกับเรื่องความเจ็บป่วยของคุณแม่ แล้วต้องสู้กับตัวเองเยอะ ซึ่งหลังจากคุณแม่จากไป เราต้องพยายามเข้มแข็ง ดูแลทุกอย่างจนงานศพเสร็จ ต่อมาคุณพ่อก็มาป่วยอีก ต้องผ่าตัดหัวใจ ทำบายพาส 4 เส้น ก็กลัวคุณพ่อจะเป็นอะไรมาก ขณะนี้แม้คุณพ่อจะดีขึ้น แต่เราเริ่มนอนไม่ได้ สะดุ้งตื่นขึ้นมาทุก 2-3 ชั่วโมง บางทีคืนนึงตื่นทุกชั่วโมง ร่างกายมันไม่ได้พัก รู้สึกเหนื่อยทุกวัน พอมันสะสมไปเรื่อยๆ เหมือนจิตเราตก ตกเย็นไม่อยากกลับบ้าน มันก็จะหมกมุ่นอยู่แบบนี้ ขณะเดียวกันญาติสนิทก็ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอีก เรารู้สึกเริ่มแย่แล้ว ชีวิตมันวนๆอยู่อย่างนี้ สะสมมันมานานปีนึงเต็มๆ

ต่อข้อถามกลัวอาการจะเลยเถิดถึงขั้นโรคซึมเศร้ามั้ย ต้อม ไกรวิทย์ ตอบว่า มันก็มีสิทธิ์ คือพี่เริ่มเบื่อ อยู่แต่บนเตียง ไม่อยากลุกขึ้นมา นอนร้องไห้ ดูอะไรก็เศร้าไปหมด ขนาดรายการประกวดร้องเพลงยังร้องไห้เลย แล้วก็เริ่มไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากออกไปเจอคน เพราะไม่อยากตอบคำถามว่าวันนี้ไปไหนมา หรือวันนี้ทำไมดูโทรมๆจัง แต่ต้องพยายามฝืนตัวเอง ลุกขึ้นมาอาบน้ำ สระผม ไปช้อปปิ้ง ซื้อรองเท้าส้นสูงที่เราชอบ มันก็มีความสุขขึ้น แต่พอกลับมาบ้านเป็นภาระอีก จะเอาไปเก็บที่ไหน คอนโดก็เล็กนิดเดียว ที่เก็บรองเท้าก็ไม่มี ก็หงุดหงิดอีก อะไรก็ไม่พอใจ

เมื่อถามว่าตอนนี้ควบคุมอารมณ์จิตใจเราได้มากน้อยแค่ไหน ดารารุ่นใหญ่กล่าวว่า พยายามทำให้ตัวเองสบายที่สุด เช่น นั่งสมาธิ สวดมนต์ เพื่อจะได้หลับ ตอนนี้เน้นการรักษาจิตตัวเอง เลิกคิดอะไรที่เป็นลบ ขณะเดียวกันแฟนเราที่อยู่ด้วยกัน เขาก็เป็นกำลังใจให้ เห็นเราซึม เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง เราต้องคอยบอกตัวเองว่า ไม่ได้ มันเริ่มมีผลต่อคนข้างๆแล้ว

“ตอนนี้ก็ดีขึ้น อาจเพราะเริ่มกลับมามีงานเยอะขึ้น มันก็ลดเรื่องการคิดสะเปะสะปะ คือเราชอบระแวงกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง กลัวไปหมด กลัวแก่ กลัวป่วยตาย เพราะพี่ว่าก่อนตายมันน่ากลัว เราเห็นคนใกล้ตัวเราทั้งนั้นเลย ไม่อยากเห็นอีกแล้ว ไม่อยากเจอแม้กระทั่งกับตัวเรา ก็ยังพูดกับแฟนว่า รับไม่ได้เลยนะถ้าแฟนเป็นอะไรก่อน เราคงจิตระเบิดแน่ เพราะมันเห็นมาจน ไม่เอาแล้ว” ไกรวิทย์กล่าว

25 January 2561

ที่มา ข่าวสด

Posted By sty_lib

Views, 1194

 

Preset Colors