02 149 5555 ถึง 60

 

สธ.เตือน!! กินไข่แมงดาหน้าร้อน

สธ.เตือน!! กินไข่แมงดาหน้าร้อน

สธ.เตือนประชาชนกินไข่แมงดาหน้าร้อนระวัง มีพิษรุนแรงเหมือนพิษปลาปักเป้า ปี61พบป่วยแล้ว7 ราย แนะหากมีอาการลิ้นชา ชารอบปาก อาเจียน หน้ามืด ให้รีบพบแพทย์ทันที

29 มีนาคม 2561-นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าในรอบ5ปีที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้รับรายงานพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการรับประทานไข่แมงดาทะเล จำนวน33ราย เสียชีวิต3ราย

"ล่าสุดกลางเดือนกุมภาพันธ์ปี2561นี้ พบผู้ป่วย 7 ราย จากการนำไข่แมงดาทะเลเผาที่ซื้อจากตลาดมาปรุงอาหารรับประทานด้วยกัน หลังจากนั้นทุกรายมีอาการชามือ ชาเท้า ชาปลายลิ้น อาเจียน บางรายมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด ใจสั่นร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากพิษของไข่แมงดาถ้วยหรือเห-รา ที่นำมารับประทานเพราะคิดว่าเป็นแมงดาจานซึ่งรับประทานได้สารพิษนี้ทนทานความร้อนสูงมากการต้ม ทอด ปิ้ง หรือย่าง ไม่สามารถทำลายพิษได้"นพ.โอภาส ระบุ

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า แมงดาทะเลมี 2 ชนิดคือ แมงดาจาน หรือแมงดาทะเลหางเหลี่ยมไม่มีพิษ รับประทานได้ มีขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทรายและแมงดาถ้วย ซึ่งมีชื่อเรียกหลายชื่อได้แก่ แมงดาทะเลหางกลม หรือเห-ราหรือแมงดาไฟจะมีพิษ รับประทานไม่ได้ ตัวมีสีส้มหรือน้ำตาลเข้มขนาดเล็กกว่าแมงดาจาน อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลน

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ซึ่งแมงดาถ้วยมีพิษที่ชื่อ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) และเซซิทอกซิน (Sasitoxin) ชนิดเดียวกับปลาปักเป้า เป็นพิษที่เกิดจากแบคทีเรียในลำไส้ของแมงดาถ้วยหรือเกิดจากการกินตัวแพลงก์ตอนที่มีพิษหรือกินหอยหรือหนอนที่มีแพลงตอนพิษ ทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่

"ผมจึงขอย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการกินไข่แมงดาในช่วงกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน ซึ่งมักพบการแพร่พันธุ์ของแพลงก์ตอนพิษจำนวนมากทำให้อาจเกิดอาการป่วยรุนแรงและรวดเร็ว ภายใน 10-45นาทีหลังรับประทานไข่แมงดาเข้าไป"โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ระบุ

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่รับประทานไข่แมงดาทะเลหากพบว่ามีอาการชาที่ปากและลิ้นวิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียนหายใจไม่ออกให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด และแจ้งแพทย์ว่ารับประทานไข่แมงดาทะเลจะช่วยให้การรักษาเร็วขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษจากแมงดาทะเลประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422ตลอด 24ชั่วโมง

30 March 2561

ที่มา คม-ชัด-ลึก

Posted By STY_Lib

Views, 1381

 

Preset Colors