02 149 5555 ถึง 60

 

เคยป่วย 7 โรคต้องกินยากว่า 100 เม็ดต่อวัน แต่หายได้ด้วยแพทย์บูรณาการ

เคยป่วย 7 โรคต้องกินยากว่า 100 เม็ดต่อวัน แต่หายได้ด้วยแพทย์บูรณาการ

เผยแพร่: 21 เม.ย. 2561 20:03: ปรับปรุง: 21 เม.ย. 2561 21:43: โดย: MGR Online

ซีสต์ก้อนใหญ่ในมดลูก ไมเกรน ภูมิแพ้รุนแรง เบาหวาน และอีกสารพัด รวม 7 โรคในคนๆ เดียว ต้องรับประทานยาเกินกว่า 100 เม็ดต่อวัน แต่หายป่วยได้ด้วยการรับรู้ข้อมูลผ่านรายการ “ปฏิวัติสุขภาพกับปานเทพ” ควบคู่กับการปรับอาหารและการปรับพฤติกรรมอย่างถูกต้อง ตลอดจนใช้การแพทย์บูรณาการ นำมารักษาที่เหตุแห่งโรคตั้งแต่การล้างพิษไปจนถึงการบำบัดด้วยการบริหารและจัดการระบบภูมิคุ้มกัน

สุขุมาลย์ ปฐมวงศกร ผู้เข้ารับการรักษาที่ MW Wellness เปิดเผยถึงปัญหาสุขภาพก่อนหน้านี้ ว่า ป่วยมาตั้งแต่เด็ก เป็นภูมิแพ้ ใช้สเตียรอยด์ และยารับประทาน และต้องใช้ปริมาณเยอะขึ้น แต่ไม่หาย จึงไปหาหมอ ซึ่งหมอก็บอกว่าเป็นลมพิษเรื้อรังให้ทานยา 3 โดสเป็นเวลา 9 เดือน จากนั้นก็เป็นหวัด และเป็นมากขึ้น จนกลายเป็นไวรัสขึ้นสมอง ต้องรับประทานยาเพิ่ม และต่อมทอนซิลก็มีหนองตลอดเวลา หมอบอกว่าต้องตัดทิ้ง ตอนนั้นไม่รู้เรื่องการรับประทานอาหารเป็นยา ไม่รู้จักการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เลยเชื่อตามหมอ ตัดต่อมทอนซิลทิ้ง พอตัดทิ้งภูมิคุ้มกันก็ตกลง ไปสัมผัสอะไรก็ติดโรคทันที เข้าโรงพยาบาลไปเยี่ยมญาติ กลับออกมาจะได้โรคหวัดมาทันที

สุขุมาลย์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ รับประทานยาเยอะมาก โรคละ 15 เม็ด ครั้งละ 5 เม็ด 3 เวลา จากนั้นพอเรามีในโรคอื่น ยาก็จะเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งที่เป็นมากที่สุดถึง 7 โรค เป็นช่วงใกล้จะเรียนจบ อยู่มหาวิทยาลัยปี 4 ช่วงคาบเกี่ยวการทำงานก็เริ่มมีความเครียดมากขึ้นเพราะว่าต้องทำงานต้องรับผิดชอบ ก็ได้ไมเกรนมา รวมทั้งหมดใน 7 โรค ก็ทานยาวันละ ถ้าจำไม่ผิด 102 เม็ด 108 เม็ดต่อวัน

สาเหตุที่เปลี่ยนมารักษาแนวธรรมชาติบำบัด เนื่องจากระยะหลังๆ เครียดมากขึ้น เพราะว่าความรับผิดชอบสูงขึ้น เพราะเรามาทำงานของตัวเอง ก็จะเป็นมาก คือ ลำไส้อักเสบ และกระเพาะอาหาร เพราะทานข้าวไม่เป็นเวลา จนหลังๆ หมอบอกว่าทำไมเป็นบ่อยจัง ถ้าเป็นอีกครั้ง จะส่องกล้อง ก็ไม่อยากจะส่องกล้องจึงปรึกษากับเภสัชกรตอนที่รับยา ได้รับคำแนะนำว่าให้ทานอาหารเย็นเร็วขึ้น แล้วทานน้ําเต้าหู้ทุกวันถ้าเป็นไปได้ เพราะว่ามันจะเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร จึงทำตามที่เภสัชกรบอก จากนั้นก็ทานน้ำเต้าหู้ทุกวัน เป็นเวลา 3 เดือน สรุปแล้วแผลในกระเพาะหายจริงๆ จากนั้นก็ทานแบบนี้ทั้งปี กลายเป็นว่าร่างกายเย็นเกิน ก็เลยเป็นช็อกโกแลตซีสต์อีกโรค แล้วมารู้ตัวตอนที่ใหญ่แล้ว จนจะแตกแล้ว ซึ่งยากินไม่อยู่แล้ว ต้องฉีด ยาเข้ากระแสเลือดอีก เป็นยาสเตียรอยด์ แต่ฉีด 8 เข็มแล้ว ช็อกโกแลตซีสต์ไม่ลดลงเลยแม้แต่มิลเดียว หมอบอกว่าให้ผ่า แต่เราก็ตัดสินใจที่จะไม่ผ่า และเริ่มถอยกลับจากแพทย์กระแสหลัก มาเริ่มศึกษาว่าจะใช้แพทย์องค์รวมดีกว่าไหม มาดูแลแนวสุขภาพดีกว่าไหม แนวธรรมชาติบำบัด

แล้วก็มาเจอที่ อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำรายการปฏิวัติสุขภาพกับปานเทพได้ระยะหนึ่ง ก็จะมีหลักสูตรล้างพิษตับสำหรับคนเมือง ซึ่งไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ฟังอาจารย์ปานเทพทุกเทปไม่เคยขาด ก็เลยสมัครมาล้างพิษตับที่โรงแรมฟอรั่มปาร์ค เพื่อจะกลับไปทำเองที่บ้าน จากนั้นก็มาล้างเอง 3 ปี ล้างไปทั้งหมด 7 ครั้ง สรุปก็คือช็อกโกแลตซีสต์หายไป 1 ข้าง แล้วอีกข้างที่ใหญ่ก็เล็กลงแล้วฝ่อจนไม่สามารถที่จะโตได้อีก ก็เลยย้อนกลับมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา ทำไมเราถึงต้องเป็นโรคมากขนาดนี้ จากนั้นก็เริ่มกลับมาศึกษาเกี่ยวกับองค์รวม

ส่วนการดูแลเรื่องภูมิแพ้นั้น ก่อนที่จะมาที่เวลเนส ไปตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง ทำให้ได้รู้ว่าของอะไรที่เราแพ้ คือ แพ้เยอะมาก ก็ทำอย่างอาจารย์ปานเทพบอกคืองด 6 เดือน แต่ตอนนั้นลำบากมากเพราะว่ามันจะทานอะไรดี แต่ว่าถามว่าได้ผลไหม มันได้ผลในระดับหนึ่งเลย คือ ภูมิแพ้ลดลงจริงๆ จากนั้นพอ 6 เดือน ก็เริ่มกลับมาทานใหม่แต่ว่าในระหว่างที่งดภูมิแพ้ก็ยังไม่หาย เพราะว่าก่อนหน้านั้นทานยาเยอะ แล้วยาที่เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำไส้เรา มันทำให้เป็นลำไส้แปรปรวนด้วย ระบบขับถ่ายที่เคยดีมันรวนหมดแล้ว คือ ใน 1 ครั้งที่เข้าห้องน้ำใน 1 วัน ต้องเดินเข้าเดินออก 4 - 5 ครั้งถึงจะเรียบร้อย มีปัญหาระบบตรงนี้มาก ตอนหลังมารู้ว่าภูมิคุ้มกันของเรา 80% อยู่ที่ลำไส้ ก็เลยตั้งใจที่จะมาหาดีท็อกซ์ด้วย แล้วก็มาล้างหลอดเลือดด้วย เพื่อให้ปัญหาตรงนี้ทุเลาลง ก่อนที่จะเอาไม่อยู่

สุขุมาลย์ กล่าวถึงประสบการณ์ในการรักษาที่ MW Wellness ว่า ที่เวลเนส มาดีท็อกซ์อันแรก อันที่ 2 คือ คีเลชั่น อันที่ 3 คือ mega dose คือ boose ระบบภูมิคุ้มกันที่มันแย่แล้วให้พื้นขึ้นมา แล้วก็อันนี้ 4 มาโอโซน แต่ว่าตอนนี้ที่ทำเพิ่ม คือ ตรวจเซลล์กระพุ้งแก้มเพื่อจะหาว่าอาหารอะไรที่เราทานแล้วมันจะเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันเรา ก่อนอื่นคือ เคยเป็นคนบ้างาน ทุกวันนี้ก็ยังทำงาน 7 วันอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญถ้าเราจะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้เราต้องดูแลอาหารการกิน การพักผ่อนต้องจัดสรรให้ดี เพราะว่าการที่เราป่วยมันเป็นอะไรที่ทุกคนทุกข์ทรมานมาก การจะต้องหอบสังขารที่ไม่ดีไปทำงานทุกวันมันไม่สดชื่นเลย

“แล้วยิ่งถ้าใครมีปัญหาสุขภาพค่อนข้างแรง วิธีการของ เวลเนส ช่วยได้ดี คือ บางทีเราไม่รู้ แล้วเราก็ทานยาจนหลอดเลือดเราเสียหายมานาน อยู่ๆ จะให้เรากลับไปทำให้หลอดเลือดเรายืดหยุ่น บางทีมันไม่ทันกับเวลา เหมือนกับการบำบัดโรคได้ไม่ทัน การมาล้างหลอดเลือดนี้ก็ดี จากที่มาล้างมันทำให้เห็นผลว่าน้ำตาลในกระแสเลือด จาก 113 ที่หมอบอกว่าอีกครั้งเดียวจะส่งไปหาหมอเบาหวานแล้ว กลับกลายเป็น 84 ซึ่งมันทำให้เรากลับมาเป็นปกติได้ สดใสขึ้น มีแรงจากข้างในมากขึ้น”

23 April 2561

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By STY_Lib

Views, 1142

 

Preset Colors