ความรักในชาติพันธุ์ต้องไม่ทำให้อยู่เหนือคนอื่น
ความรักในชาติพันธุ์ต้องไม่ทำให้อยู่เหนือคนอื่น
บทความสัปดาห์นี้ยังคงเป็นฝีมือของลูกชายคนโต "สรวง สิทธิสมาน" วัย 20 ปี ที่ได้มีโอกาสไปหาประสบการณ์พากษ์เสียงที่ดินแดนมังกร ทำให้ได้สนทนากับชาวจีนที่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับวิธีคิดของคนไทยที่มีต่อคนจีน และนี่คือมุมสะท้อนของเขาในฐานะที่ไปใช้ชีวิตนักเรียนที่ดินแดนมังกรมาเกือบ 2 ปี
เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีโอกาสไปช่วยงานพากย์เสียงโฆษณาเป็นภาษาไทยให้กับเพื่อนคนจีนคนหนึ่ง ผมใช้เวลาร่วมหกชั่วโมงอยู่ในสตูดิโออัดเสียง ระหว่างพักเราได้คุยกันในหลายหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศจีนในปัจจุบัน
เพื่อนคนจีนเป็นคนเริ่มถามถึงเหตุผลที่ผมมาเรียนที่จีน
แน่นอนว่ามีหลายเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจมาเรียนที่นี่ นอกจากที่คาดการณ์ในอนาคตไว้ว่าจีนจะทวีความสำคัญขึ้นต่อโลกเราในทุกด้านอย่างแน่นอนแล้ว ผมยังสนใจในภาษาและวัฒนธรรมของจีนที่แพร่ขยายไปทั่วโลกไม่แพ้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
"แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบคนจีนนี่ ?" เพื่อนถาม
"ก็อาจจะมีบ้าง..." ผมตอบ
"แต่คนจีนส่วนใหญ่ชอบคนไทยมากนะ" เขาพูดต่อ
"ก็เหมือนกับที่คนไทยบางส่วนนิยมชมชอบเกาหลีนั่นแหละ แต่คนเกาหลีก็ไม่ได้นิยมชอบเรามายมายอะไรนัก" ผมคิดในใจ
ภาพรวมของคนไทยที่ดูเหมือนจะเสพสื่อจากตะวันตกหรือกลุ่ม "ประเทศพัฒนาแล้ว" ซึ่งมักจะเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างและค่อนข้างไกลตัว โดยจะมองข้ามกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและมหาอำนาจใหม่ที่ใกล้ตัวที่สุดอย่างจีน
จีนที่เพิ่งจะเปิดประเทศอย่างจริงจังมาได้ประมาณ 30 ปี แน่นอนว่าประชาชนจีนได้เห็นโลกภายนอกมาน้อยกว่าประเทศเปิดอื่น ๆ ทั่วโลกอยู่แล้ว เมื่อสภาพเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด การท่องเที่ยวต่างประเทศจึงเป็นวิถีที่ค่อนข้างใหม่และได้รับความนิยมสูงมากถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้จึงมีกลุ่มคนวัยกลางคนจนถึงวัยสูงอายุจำนวนหลายล้านคนที่แต่ก่อนไม่เคยรับรู้ถึงความเป็นไปในโลกภายนอก ไม่รู้จักมารยาทสากล ไม่รู้ภาษาต่างประเทศ แต่มีเงินพอที่จะยกทัพถล่มสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งบนโลกได้ อย่าว่าแต่แหล่งท่องเที่ยวในต่างประเทศเลย แหล่งท่องเที่ยวในจีนเองก็แน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีนจากต่างเมืองเช่นกัน
คนจีนเหล่านี้สามารถพบได้ทั่วไปในทุกมุมโลก รวมถึงประเทศไทย ในฐานะนักท่องเที่ยว โดยบางครั้งพวกเขาจะถูกมองด้วยสายตาเชิงเหยียด ๆ บ้างก็ว่าไร้มารยาท บ้างก็บอกว่าเสียงดังน่ารำคาญ
มันมีส่วนทั้งที่ถูก...และผิด !
ผมอธิบายมุมมองของคนไทยที่มีต่อคนจีนให้กับเพื่อนของผมฟัง
"ก็มารยาทของคนไทยส่วนใหญ่ต้องสุภาพเรียบร้อย นอบน้อม และสำรวม..." เขาเริ่มอธิบายความคิดของเขา
"...ถูกต้อง" ผมตอบไป
"แต่คนจีนชอบความครึกครื้นรื่นเริง ต้องแสดงความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งค่อนข้างที่จะขัดกับวิถีแบบของไทย มันคงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คนไทยมีอคติกับคนจีน" เขาอธิบายต่อ
"อืมม...." ผมคิดตาม
"นอกจากเหตุผลทางวัฒนธรรมที่ทำให้ประเทศจีนค่อนข้างวุ่นวาย ในปัจจุบันก็เป็นผลมาจากการพัฒนาเช่นกัน"
ตึกที่ผุดขึ้นมาราวกับวัชพืชในพื้นที่รอบตัวเมือง และควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม การจราจรติดขัดต่าง ๆ ทำให้เกิดมลพิษที่ค่อนข้างรุนแรงและส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนที่รีบร้อน ตื่นเช้าไปเรียนและทำงานอย่างหนัก แถมยังแข่งกันขยันทำ Overtime ด้วยความเชื่อที่ว่า "ลิขิตฟ้าเปลี่ยนแปลงได้ด้วยความขยัน" หากนำมาพูดในสังคมปัจจุบันก็คงเป็น "ยิ่งขยัน ยิ่งทำเงิน" และยิ่งทำงาน ผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ก็จะยิ่งเพิ่ม
ผมว่านี่ก็คือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน "ประเทศกำลังพัฒนา" ทุกแห่ง
เป็นเรื่องจริงที่หลังจากเปิดประเทศอย่างจริงจัง ประเทศจีนได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีบทบาทสำคัญบนเวทีเศรษฐกิจโลก ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และระบบสังคมนิยมแบบการตลาดที่สร้างการแข่งขันด้วย สร้างผู้ประกอบการรายเล็กขึ้นมาเป็นจำนวนมาก คนจนหลักสิบล้านได้หลุดพ้นจากความจนขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง ช่องว่างความเหลื่อมล้ำนับวันยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ
หากเทียบกับประเทศตะวันตกที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่ขับเคลื่อนด้วยคนจำนวนน้อย ทำให้เกิดการกระจุกตัวของอำนาจ แทนที่จะสร้างผลประโยชน์ให้กับส่วนรวมแต่กลับกลายเป็นการมุ่งหวังอำนาจในกลุ่มชนชั้นสูง ถึงจะพูดเสมอว่าจะตอบสนองประชาชน แต่กลับดูจะกลายเป็นกลุ่มผลประโยชน์หรือเผด็จการในอีกรูปแบบหนึ่งเสียเอง ที่นับวันปัญหาความเหลื่อมล้ำยิ่งกลายเป็นปัญหาบานปลายและยากที่จะแก้ไข
ประเทศจีนในวันนี้ได้กลายเป็นตัวอย่างของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และกลุ่มประเทศสังคมนิยมการเมืองพรรคเดียว ที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความมั่งคั่ง และมั่นคงที่สุด และจะไม่หยุดพัฒนาในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
"แล้วคนไทยคิดอย่างไรกับประเทศตะวันตก"
....ด้วยความที่ประเทศตะวันตกบางประเทศเป็นประเทศที่พัฒนามั่นคงแล้ว ยกตัวอย่างเช่นประเทศทางยุโรปเหนือ ที่การศึกษาล้ำสมัย ระบบเศรษฐกิจมั่นคง และการปกครองที่ให้ความสำคัญกับกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงสามารถพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของประชากรได้อย่างเต็มที่
ประเทศเหล่านั้นบ้างเป็นประเทศที่เคยเป็นหนึ่งในลัทธิล่าอาณานิคมที่เคยสูบทรัพยากรณ์จากประเทศใต้อาณานิคมเสียจนมั่งคั่ง บางประเทศก็อยู่ห่างจากภัยสงครามในแต่ละยุคสมัยทำให้สภาพแวดล้อมในประเทศมีความปลอดภัยสูง
ซึ่งผิดกับประเทศจีนที่หลุดจากลัทธิล่าอาณานิคมได้ไม่นาน ประชาชนเคยถูกมอมเมาด้วยฤทธิ์ฝิ่นจากประเทศตะวันตกจนท้ายที่สุดเกิดเป็นสงครามฝิ่น สงครามภายในที่เปลี่ยนระบอบการปกครองถึง 2 ครั้งในระยะเวลาอันสั้น การตกเป็นเหยื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทำให้ชาวจีนหลักล้านได้ถูกสังหารไปอย่างโหดเหี้ยม มีอนุสรณ์สถานเป็นที่ประจักษ์อยู่ ณ นครหนานจิง สถานที่พำนักเล่าเรียนของผมในปีนี้
ผมเคยคิดว่าสิ่งที่คนจีนเป็นในปัจจุบันมีผลมาจากจำนวนประชากรที่มากเกินควบคุม หรือเรื่องการไม่มีศาสนาประจำชาติ
แต่หากเราลองมองกลับไป จีนเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันเต็มไปด้วยความชอกช้ำเจ็บปวด โดยมีประชาชนบริสุทธิ์จำนวนมากตกเป็นเหยื่ออย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
ในวันนี้จีนกลายเป็นประเทศที่สนับสนุนการร่วมมือทางเศรษฐกิจ และมีบทบาทสำคัญในโลก ที่สำคัญกว่านั้น ประเทศจีนมีสัมพันธภาพที่ดีฉันพี่ฉันน้องกับประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของใครมาก่อน
บางทีเราควรจะเห็นความสำคัญ...
"ในวันนี้คนจีนก็เป็นแบบนี้แหละ แต่รอให้ประเทศนี้ผันตัวกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วก่อนเถอะ อาจจะ 20-30 ปีข้างหน้า คนจีนอาจจะไม่ชอบคนไทยขึ้นมาบ้างก็ได้นะ...." เพื่อนคนจีนพูดออกมาด้วยเสียงกลั้วหัวเราะเบา ๆ ภายใต้แววตาที่สะท้อนความน้อยใจออกมานิด ๆ พอให้เห็นได้แว่บหนึ่ง
ผมเงียบ....
ถึงผมจะไม่ได้มีอคติต่อประเทศจีนแต่อย่างไร แต่หลังจากเห็นเพื่อนแววตาแว่บนั้นของเพื่อน ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรได้
คนจีนชอบประเทศไทยมาก ดูแม้กระทั่งละคร "ออเจ้า" ที่ออกจะเป็นที่นิยม แต่กลับได้รับการตอบรับจากบางคนแม้จะไม่กี่คนอย่างค่อนข้างอคติ จนบางครั้งถึงขั้นเกือบจะกลายเป็นการเหยียดชาติพันธ์
คิดบ้างหรือไม่ว่าการกระทำเหล่านี้ มันช่างไม่ทันสมัยเอาเสียเลย
ความรักและการยึดถือในชาติพันธุ์ของตัวเองจนเห็นว่าตัวเองอยู่สูงกว่าคนอื่น ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นในสังคมสมัยใหม่แล้ว
เราจะรู้สึกอย่างไรหากรู้ว่ามีคนใช้คำว่า "ไทย" เป็นคำด่าในประเทศใดประเทศหนึ่ง ถ้าเป็นผมคงรู้สึกไม่ต่างกับเพื่อนคนจีนของผมคนนี้
ไม่ใช่แค่กับประเทศจีน เราควรจะปฏิบัติต่อชาติพันธ์และศาสนาอื่น ๆ อย่างเท่าเทียมกันให้มากที่สุด
เป็นเรื่องดีที่คนเราภูมิใจในตัวในวิถีของตัวเอง แต่หากไร้ซึ่งความเคารพ คนเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร
ในวันนี้มังกรที่ชื่อว่าจีนกำลังผงาดอยู่บนท้องฟ้าโดยไม่มีวี่แววว่าจะมีอะไรมาเอาลงได้ ถึงแม้ว่าในวันนี้จะยังมีคนที่ไม่ยอมรับในสิ่งที่มังกรตัวนี้ทำได้...
....แต่รับรองได้ว่ามังกรตัวนี้จะได้ครองท้องฟ้า กลายเป็นเจ้าเวหาในอนาคตอย่างแน่นอน
16 May 2561
ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์
Posted By sty_lib
Views, 580