02 149 5555 ถึง 60

 

คลายเครียดกันสักตอน นักข่าวออกกำลังกาย

คลายเครียดกันสักตอน นักข่าว'ออกกำลังกาย

สัปดาห์นี้มาแวะผ่อนคลายเคลียดกันสักตอน ส่องชีวิต "นักข่าว" กับการออกกำลังกาย เรื่องเล่าอ่านเพลินๆ

“หายใจไม่ทันวะ”

คำพูดของวิชัยที่ปลิดออกมาจากปาก ในสภาพลิ้นห้อย หายใจถี่ เขาบอกผมว่า วันนั้นแทบได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง แต่ไม่ใช่แบบเพลงรักที่ร้องกัน กลับเป็นเสียงหัวใจที่เต้นแรงราวกับจะวิ่งทะลุออกจากร่างวิชัย

“สภาพร่างกายแย่ ทำข่าวแค่นี้ก็เหนื่อย”ก่อนหน้านี้ไม่เกิน 5 นาที นักข่าววิ่งไปทำข่าวผู้ต้องหาคดี “ขับรถชนคนตาย” มอบตัวแล้วได้รับการประกันตัวที่ชั้นโรงพัก ก่อนที่ผู้ต้องหาจะรีบวิ่งขึ้นรถหลบสื่อฯ แม้พวกเราจะสับขาเต็มที่ แต่ก็ไม่อาจถ่ายรูปได้ทัน

วิชัยนั้นสับขาเต็มที่ แต่ไม่ได้รูป แถมยังมีอาการหายใจไม่ทัน ร่างกายไม่สมบูรณ์ “อายุไม่ใช่น้อยก็จริง แต่ยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่น ทำไมร่างกายไม่ค่อยฟิตเหมือนคริสเตียโน โรนัลโดเลยวะ” เขาบอกกับผม ขณะนั่งยอง ๆ กับพื้น ถึงตรงนี้ผมคิดว่าวิชัยอาจหัวใจวายตายจากโลกนี้ไปได้จริงๆ

“ออกกำลังกายสิ จะได้แข็งแรง” ผมกล่าวเพียงแค่นี้ วิชัยก็ทำสีหน้าราวกับบรรลุซาโตริ (การบรรลุธรรมในพุทธปรัชญานิกายเซ็น) ในฉับพลัน

ข้อสรุปจากอาการหอบเหนื่อยง่าย มาจากขาดการออกกำลังกายนี่เอง มัวแต่ดื่มร่ำสุราเป็นปาร์ตี้แมน คอนั้นแข็งแน่ แต่ร่างกายไม่แข็งตามแถมยังทรุดโทรมลงไปด้วย สมัยทำงานใหม่ๆ มัวแต่สนุกสนาน อายุมากขึ้น ร่างกายเริ่มกรอบเกลียวอ่อนล้า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วิชัยเลยเริ่มออกกำลังกาย เริ่มจากการเตะฟุตบอล

“ไม่เวิร์กวะ ไอ้หนอนโรงพัก เตะบอลนี้ไม่ได้เรื่องเลย”

ผมวางคิ้วสงสัย “ทำไมวะ”

วิชัยเฉลยว่า พอนัดเพื่อนฝูงมิตรสหายเตะบอลกันในสนาม นอกจากจะต้องเสียค่าสนามแล้ว บางทีก็เตะร่วมกับทีมตำรวจ แบบบอลสี่เส้า

“ระหว่างแข่งเขาก็มีพริตตี้มาอยู่ในสนาม นำเครื่องดื่มมาให้กิน กว่าจะได้เตะเมาพอดี แถมเตะเสร็จ มิตรสหายบอกไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยๆ ไปกินข้าวกัน จบทีเตะบอลก็เหนื่อยพออยู่แล้ว ยังจะมีเครื่องดื่มเข้ามาด้วย สรุปออกกำลังกายมาสูญเปล่า”

วิชัยจึงเพลาการเตะฟุตบอล หันไปตีแบดมินตัน ผ่านไปหลายวันก็มาบอกผมว่า “ไม่เวิร์กวะ ไอ้หนอนโรงพัก แบดนี่ไม่ไหวเลย” ผมวางคิ้วสงสัย “ทำไมอีกล่ะ พ่อคนเรื่องมาก”

วิชัยเฉลยง่ายๆ ว่า พอนัดตีกัน ปรากฏว่าแต่ละคนตีเก่งราวกับนักกีฬาอาชีพ “เจ็บหลังไปหมดเลย”

“จะโม้ว่ากระโดดตบลูกบ่อยสินะ”

วิชัย บอก “เปล่า ก้มเก็บลูกขนไก่นะสิ เล่นกันทีชั่วโมง ก้มไปเกือบร้อยครั้ง เหงื่อยังไม่ทันออกก็แพ้ ตีแรงก็ออก ตีเบาก็ติดตาข่าย เขาเหงื่อออกกัน ตรูมีแต่น้ำตาปวดหลังชะมัด ก้มเก็บก้มเก็บ”

สรุปแบดมินตันสูญเปล่า วิชัยไม่เอา ผมถามว่ายน้ำล่ะ “มีพุงอายสาว” ผมบอกกีฬาหลายชนิด แต่วิชัยก็บ่ายเบี่ยงมีข้ออ้างเยอะ โดยข้ออ้างที่สำคัญ “เล่นทำไมเหนื่อย” จบครับ ลงว่าออกกำลังกายแล้วก็เหนื่อย ก็เหมือนคิดมีความรักแล้วกลัวเจ็บนะ ของแบบนี้มันมาคู่กัน แต่ยิ่งเจ็บยิ่งแกร่ง

ผมกับวิชัยไม่ได้พบหน้ากันหลายเดือน เจอกันครั้งล่าสุด วิชัยดูผอมและแข็งแกร่งขึ้น ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนมีความรัก จึงถามว่าทำไมดูสดชื่นแบบนี้ “ออกกำลังกายนะ เดี๋ยวนี้วิ่ง ตอนนี้ได้ 10 กิโลฯ แล้ว ต่อไปจะเอาให้ได้ 21” ทีแรกผมสงสัยว่าน้ำหนักหรือ 10 กม. แต่ขืนตอบไปวิชัยด่าแน่ เลยลองคิดใหม่จึงเข้าใจว่า คือการวิ่งออกกำลังกาย 10 กม.นี่เอง ซึ่งตอนนี้วิชัยวิ่งไวมาก ไม่ถึง 1 ชม.ก็วิ่งได้ 10 กม.นิดๆ แล้ว ส่วนกระผมนั้น 30 นาทียังหอบจะกินอยู่ร่ำไป

“ออกกำลังกายแล้วสดชื่น นั่นๆๆๆ ผู้ต้องหามาแล้ว” วิชัยชี้ทำเอาฝูงสื่อมวลชนหันไปด้วย แต่ไวน้อยกว่าวิชัยที่รีบวิ่งไปดักถ่ายรูปผู้ต้องหาอย่างชิลๆ ก่อนจะหันมาเย้ยนักข่าวคนอื่นว่า “คราวนี้เข้าใจแล้วว่า คริสเตียโน โรนัลโดเก่งอย่างไร ออกกำลังกายแบบนี้นี่เอง ปราดเปรียวคล่องแคล่วยิ่งนักเรา” วิชัยได้ทีโม้ ส่วนผมนั้นเริ่มมีอาการหอบเหนื่อย เชื่องช้าเสียแล้ว

ผ่านไปหลายอาทิตย์ ผมเริ่มวิ่งออกกำลังกายกันบ้าง ค่อยเป็นค่อยไป ช่วงนี้วิ่งกันหลายคน นักข่าวหลายคนคว้าหรงคว้าเหรียญกันเต็มไปหมด ผมนั้นไม่อยากไปแข่ง จึงวิ่งแถวที่พักพอให้เหงื่อออก หวังสักวันคงจะได้ไปแข่งบ้าง

“หนอนโรงพัก” วิชัยทักผมในวันหนึ่ง ซึ่งเรากำลังรอผู้ต้องหาเดินออกมา “ผู้ต้องหาอยู่ชั้นไหน”

“ชั้น 3 จะไปรอที่ชั้น 3 ของโรงพักหรือให้มันลงมาเอง” ผมถาม วิชัยบอกว่ารอข้างล่างเถอะ “เดี๋ยวนี้ตำรวจเขาชอบสับขาหลอก ไปรอชั้น 3 เลยดีกว่า” ผมบอก วิชัยนั้นมีสีหน้าอ่อนล้าอ่อนแรงไม่เอาด้วย ผมสงสัยว่าออกกำลังกายขนาดนี้ จะมาขี้เกียจคร้านทำไม “ไปชั้น 3 รอถ่ายรูปผู้ต้องหากัน”

วิชัยส่ายหน้า “ไหนว่าออกกำลังกายโม้ว่าแข็งแรง แค่เดินขึ้นชั้น 3 ของโรงพักแค่นี้จะเป็นไรไป” วิชัยมองซ้ายมองขวา แล้วตรงเข้าไปกระซิบผมว่า “ก็ออกกำลังกายนี่แหละ หนักไปหน่อย วันนี้ปวดขาชะมัดยาก ปวดเข่า ไม่เอาแล้ววิ่ง ข้อเข่าไม่ดีหมด ปวดมาอาทิตย์แล้วยังไม่หายเลย หากิจกรรมออกกำลังกายอย่างอื่นดีกว่า ไปยิงปืนกับตำรวจไหม ได้ฝึกสมาธิดี”

ผมมองหน้าวิชัย ก่อนจะรีบสาวเท้าไปชั้น 3 ทิ้งวิชัยร้องโวยวายว่า ทำไมทิ้งกัน โธ่..ก็เล่นวิ่งหักโหมขนาดนี้ มันก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา วันนั้นผมถ่ายผู้ต้องหาได้อย่างสบาย เพราะไม่มีใครมาเบียดมาแย่ง ส่วนวิชัยนั้นเห็นว่า เลิกวิ่งนานแล้ว ตอนนี้กำลังออกกำลังกายด้วยกีฬาใหม่ นั่นก็คือ...หมากรุกไทย เล่นได้หลายสัปดาห์แล้ว โดยย้ำว่าไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลย

“ถ้าไม่เอาตัวขุนเขวี้ยงหน้า เพราะหมั่นไส้กันก่อนนะ รับรองว่าเป็นกีฬาที่ได้เหงื่อดีเชียวล่ะ” วิชัยยิ้มรับก่อนรีบขยับขุนหนีเรือ ม้า โคน เบี้ยผม คาดว่าไม่น่าเกิน 3 ตัว ขุนวิชัยไม่น่าจะรอด.... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/article/656720

25 July 2561

ที่มา เดลินิวส์

Posted By Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana

Views, 747

 

Preset Colors