วิธีชะลอ “โรคอัลไซเมอร์”
วิธีชะลอ “โรคอัลไซเมอร์”
สยามรัฐออนไลน์ 23 สิงหาคม 2561 09:00 กทม.
“อัลไซเมอร์” โรคนี้เราได้ยินบ่อยขึ้น ซึ่งนพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่า โรค อัลไซเมอร์คือ ภาวะสมองเสื่อมที่พบมากที่สุด
เกิดจากการฝ่อตัวของสมอง ซึ่งกระทบต่อโครงสร้างและการทำงานของสมองบริเวณนั้นๆ โดยเฉพาะสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมความคิด ความทรงจำ การใช้ภาษา
อาการในระยะเริ่มต้น จะเริ่มจากการหลงลืมที่ไม่รุนแรง เช่น ลืมบทสนทนาหรือเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ทำอะไรซ้ำ ๆ หลายครั้ง อารมณ์แปรปรวน
ระยะกลาง จะยิ่งมีปัญหาด้านความทรงจำ จำชื่อคนรู้จักไม่ได้ ทำกิจวัตรประจำวันที่มีหลายขั้นตอนได้ยากขึ้น ระยะสุดท้ายเป็นระยะที่อาการโรครุนแรงมากขึ้น โดยจะประสาทหลอน อาละวาด เรียกร้องความสนใจ ชัก
ปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำอาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคสมองเสื่อมเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดได้จากภาวะซึมเศร้า เครียด ผลข้างเคียงจากยา หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งแพทย์จะช่วยตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่เกิดขึ้นได้
นพ.ประพันธ์ พงศ์คณิตานนท์ ผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์กล่าวว่า การรักษาในปัจจุบันมีเพียงการใช้ยาและการดูแลที่จะช่วยบรรเทาอาการด้านความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วยได้เพียงชั่วคราว หรืออาจช่วยให้พัฒนาการของโรคช้าลงได้ในบางราย
การดูแลรักษา ได้แก่ 1. การวางแผนดูแลผู้ป่วย โดยแพทย์ร่วมกับสาขาวิชาชีพอื่น ๆ ซึ่งจะมีการพูดคุยสอบถามถึงสิ่งที่ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลอาจต้องการความช่วยเหลือ
2.สร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย มีการปรับสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิต
3. การออกกำลังกาย ดีต่อสุขภาพและควรปฏิบัติสม่ำเสมอ โดยอาจให้ผู้ป่วยเดินทุกๆ วัน เพื่อปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น สำหรับผู้มีปัญหาด้านการเดิน อาจขี่จักรยานอยู่กับที่หรือออกกำลังกายโดยนั่งบนเก้าอี้แทน
4.การรับประทานอาหาร ควรเสริมด้วยน้ำปั่นจากผลไม้ผสมนมหรือโยเกิร์ต มีแคลอรีสูง หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
5.การใช้ยารักษา แพทย์จะสั่งจ่ายยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการบางชนิดและชะลอการพัฒนาของโรค
6. การบำบัดทางจิต โดยนักจิตวิทยา เช่น กระตุ้นสมองช่วยปรับปรุงความสามารถด้านความทรงจำ ทักษะการแก้ปัญหา รวมทั้งการบำบัดด้วยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม ดนตรีบำบัด ศิลปะบำบัด
สาเหตุการเกิดโรคยังไม่ทราบแน่ชัด จึงไม่มีวิธีป้องกัน แต่มีวิธีที่อาจช่วยชะลอการเริ่มต้นของโรคโดยปฏิบัติดังนี้ เลิกสูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารมีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ใน 5 วันต่อสัปดาห์ ควบคุมระดับความดันโลหิต
ที่สำคัญควรฝึกการทำงานของสมอง เช่น อ่านหนังสือ เล่นดนตรี เล่นกีฬา เป็นต้น
23 August 2561
ที่มา สยามรัฐ
Posted By ์์Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana
Views, 574