02 149 5555 ถึง 60

 

รู้จักโลก เข้าใจลูก ให้พ่อแม่วางแผนอนาคตอย่างชาญฉลาด

รู้จักโลก เข้าใจลูก ให้พ่อแม่วางแผนอนาคตอย่างชาญฉลาด

แม้พ่อแม่ยุคใหม่จะเลี้ยงดูลูกด้วยความเฉลียวฉลาดมากยิ่งขึ้น ผ่านคำแนะนำต่างๆ ของผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าในอดีต ทว่าก็ยังมีอีกเรื่องที่พ่อแม่ยุคนี้กังวลใจอยู่เสมอ หากไม่นับรวมเรื่องความปลอดภัยในโลกยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ก็มักจะมีเรื่องของ ‘อนาคตและอาชีพในวันหน้า’ ของลูกๆ ให้ต้องกังวล เราไม่มีทางทราบได้แน่ชัดว่าอีก 20 หรือ 30 ปีข้างหน้า พวกเขาจะก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานแบบไหน พบเจอกับสิ่งใด มีอาชีพอะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง แล้วลูกๆ ของเราต้องมีทักษะไหนเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างเท่าทันสิ่งเหล่านั้น พ่อแม่ในวันนี้มักกังวลใจกับอนาคตที่ไม่เคยมีภาพความจริงแจ่มชัด ทว่าความวิตกเหล่านั้นก็สามารถลดทอนได้ด้วยการรับมืออย่างเข้าใจ

การถือกำเนิดขึ้นของ Generation Alpha

วันนี้เราคละเคล้าอยู่กับประชากรโลกที่ล้วนต่างก็เป็นคนต่างยุค การถือกำเนิดขึ้นมาพบเจอเรื่องราวในยุคสมัยที่ต่างกัน ทำให้คนในแต่ละเจนเนอเรชั่นมีความแตกต่างตั้งแต่การมองโลก ไปจนถึงการรับมือกับชีวิต จาก Generation Baby Boomers มาถึง Generation X ถึง Generation Y จน Generation Z และเจนเนอเรชั่นใหม่อย่าง Generation Alpha ที่หมายถึงเด็กที่เกิดตั้งแต่ ปี 2553 อันเป็นผลผลิตของพ่อแม่ยุคใหม่ยุคนี้ ทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยความต่างที่เป็นเสมือนช่องว่าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ Generation Alpha ที่เกิดขึ้นมาพบกับเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดกว่ายุคไหนๆ ในขณะเดียวกันกับคนรุ่นพ่อแม่อย่าง Generation X หรือ Generation Y อาจไม่ได้เข้าใจพวกเขามากพอ ซึ่งส่งผลต่อการวางรากฐานเพื่อการรับมือโลกในอนาคตของลูกได้ โดยเฉพาะการใช้ชีวิต หรือแม้แต่การอยู่กับอาชีพในยุคหน้าที่เรากำลังกังวล

สติหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Generation Alpha คือ พวกเขามีแนวโน้มจะใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น โดยที่ผ่านมาเพิ่มจาก 35.9% ในปี 2553 เป็น 61.4% ในปี 2559 และพบว่า 47.4% ของเด็กกลุ่มนี้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกวัน นั่นแปลว่าเด็กยุคนี้จะมีความสามารถจากความรู้ความเข้าใจในอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีที่มากขึ้น และเป็นผลดีต่ออาชีพในอนาคตได้ ถ้าพ่อแม่เข้าใจและเล็งเห็นก็จะสามารถขยายผลในทักษะหลายอย่างที่มีในเด็กยุคนี้ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น

๐ ความคิดสร้างสรรค์ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญอย่างมากสำหรับเด็ก ในขณะเดียวกันความอัจฉริยะหลายอย่างของโปรแกรมที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ช่วยกล่อมเกลาต่อมความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ได้ ซึ่งถือเป็นการลับคม และวางรากฐานที่ดีสำหรับอนาคต

๐ ความมั่นใจในตัวเอง การถือกำเนิดขึ้นในยุคแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงโลก ส่งผลให้เด็กที่เกิดขึ้นมาในยุคนี้มีความมั่นใจและกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น หากพ่อแม่เล็งเห็นและพัฒนาทักษะในทิศทางที่เหมาะสม ก็จะเป็นประโยชน์ในวันที่พวกเขาเติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน

ประเมินทักษะชีวิตแห่งอนาคต

คงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า Generation Alpha คือผู้กุมอนาคตของโลกใบนี้ เนื่องจากพวกเขาถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี และการสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเหล่านี้ได้ดีตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ส่งผลต่อความสามารถในการทำความเข้าใจ และใช้งานได้อย่างดีกว่าคนในยุคอดีต แน่นอนว่าก็มีส่วนอย่างมากที่จะส่งเสริมให้เด็กๆ ในเจเนอเรชั่นนี้เติบโตขึ้นไปเป็นผู้คิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ชีวิตของมนุษยชาติมากยิ่งขึ้นได้ ทว่าความสามารถในการเรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยี ก็อาจสวนทางกับความสามารถในการรู้เท่าทันเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านั้นได้เช่นกัน ซึ่งพ่อแม่ต้องเข้าใจ รวมถึงวิเคราะห์ให้ได้ถึงทักษะที่อาจขาดหายไปในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวหน้า ทั้งนี้ต้องปูพื้นฐานทักษะชีวิตที่สำคัญอื่นๆ เพื่อให้พวกเขาพร้อมกับการรับมือกับทุกสถานการณ์ในอนาคต ต่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากน้อยแค่ไหนก็ตาม

ต่อให้เห็นภาพไม่แน่ชัดว่า จะมีอาชีพใดเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง หรือลูกๆ ของเราจะต้องเติบโตขึ้นไปรับมือกับเรื่องราวแบบไหน แต่ชีวิตก็ยังคงเป็นชีวิตที่ดำเนินไปตามครรลองแห่งธรรมชาติของมนุษย์เสมอ เหตุนี้ทักษะแห่งการใช้ชีวิตด้วยความเข้าใจก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอไม่ว่าจะเป็นคนเจเนอเรชั่นไหน และสำหรับลูกๆ เขาเราใน Generation Alpha ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างวันนี้ก็อาจเป็นผลให้ทักษะชีวิตบางอย่างพร่องลงได้ ซึ่งหากพ่อแม่มองเห็น รู้เท่าทัน ก็จะสามารถเติมเต็มและปูพื้นฐานให้ลงตัวได้ เพื่อให้พวกเขารับมือกับชีวิตในวันข้างหน้าให้ได้อย่างลงตัว อาทิ

๐ ความอดทนอดกลั้น ทักษะชีวิตที่สำคัญอย่างหนึ่งในโลกอนาคตของความเป็นผู้ใหญ่ คือความอดทนอดกลั้น ไม่ว่าพวกเขาจะก้าวไปสู่อาชีพแบบไหน ความอดทนอดกลั้นจำเป็นเสมอ แต่ความง่ายในการใช้ชีวิต กับความหลากหลายของสิ่งอำนวยความสะดวกในวันนี้ ก็อาจเกลาให้เด็กๆ ยุคใหม่อดทนรอคอยได้ยากขึ้น พ่อแม่จึงจำเป็นต้องเล็งเห็นและเสริมทักษะนี้ให้ได้

๐ การรู้จักทำงานเป็นทีม หรือหมู่คณะ เด็กๆ ในโลกนี้จะมีความเป็นปัจเจกสูงขึ้น ทว่าทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์คก็ยังจำเป็นต่อการพัฒนาไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยไหน พ่อแม่ยุคใหม่จึงจำเป็นต้องเสริมทักษะที่มีแนวโน้มว่าจะขาดหายไปส่วนนี้ให้ได้ เพื่อไม่ให้พร่องจนเกิดผลเสียต่อลูกๆ ในอนาคต

พียงแค่มองเห็นและเชื่อในสิ่งที่ลูกชอบ

ความกังวลใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่เป็นเรื่องปกติ และไม่ว่าความจริงในอนาคตจะอยู่เหนือการคาดเดาอย่างไร สิ่งที่พ่อแม่ยุคใหม่ควรให้ความสำคัญเสมอก็คือ การมองลูกๆ ด้วยความเข้าใจผ่านการใช้หัวใจ เพียงแค่ ‘เชื่อในสิ่งที่เค้ารักเพื่ออนาคตที่เค้าชอบ’ พ่อแม่ก็จะมองเห็นว่าทักษะไหนที่ลูกขาด และควรเพิ่มเติม ทักษะไหนที่ลูกมี และควรขยายผล เพียงเท่านั้นก็เท่ากับเป็นการวางรากฐานชีวิตที่ดีอย่างหนึ่ง เพื่อรับมือกับอนาคตที่ไม่แจ่มชัด ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างพัฒนาการทางกาย เพื่อให้สัมพันธ์กับการเจริญเติบโตในแต่ละช่วงวัย โดยช่วงวัยที่สำคัญที่สุด เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ขวบปีแรก ช่วงนี้เด็กทุกคนจะมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ในด้านต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ขณะเดียวกันก็มีความสนใจเป็นพิเศษในบางเรื่อง ซึ่งนับว่าเป็นช่วงวัยสำคัญที่พ่อแม่จะได้สังเกตแววเด่นของลูก และช่วยสนับสนุนให้พวกเขาค้นพบความถนัด รวมถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่

การเลี้ยงลูกส่งผลอย่างมากในการส่งเสริมให้พวกเขาเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดและเรียนรู้เรื่องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้พ่อแม่เองก็ต้องให้ความสำคัญกับความใส่ใจเรื่องของสมองและโภชนาการของลูกๆ ด้วย เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่สุดสำหรับวันนี้ ไม่ว่าโลกในวันหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม

18 December 2561

ที่มา ไทยรัฐ

Posted By Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana

Views, 744

 

Preset Colors