เด็กมะกันหลายรายเกิดอาการ "ลมชัก" หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า อย.สหรัฐฯ ชี้ มาจากพิษนิโคติน เร่งสอบสวนโรคแล้ว
เด็กมะกันหลายรายเกิดอาการ "ลมชัก" หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า อย.สหรัฐฯ ชี้ มาจากพิษนิโคติน เร่งสอบสวนโรคแล้ว
อย.สหรัฐ เร่งสอบสวน หลังพบเด็กและเยาวชนมะกัน 35 ราย เกิดโรคลมชักหลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า ผอ.อย.สหรัฐฯ ชี้ อาการโรคลมชักมาจากผลข้างเคียงจากพิษของนิโคติน ด้านหมอรามาฯ ยันบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายต่อเด็กและเยาวชน แต่พยายามโฆษณาว่าช่วยลดอันตรายจากบุหรี่
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์พิเศษเตือนถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจทำให้เกิดโรคลมชัก หลังมีรายงานเข้ามาที่ อย.สหรัฐฯ จำนวน 35 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน โดยผู้ใช้เกิดอาการชักหลังจากสูบบุหรี่ไฟฟ้า
นายสก็อต ก็อตตลิเอบ ผู้อำนวยการองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ระบุว่า อาการของโรคลมชักเป็นผลข้างเคียงที่สำคัญที่เกิดจากพิษของนิโคติน ซึ่งขณะนี้ อย.สหรัฐฯ กำลังทำการสอบสวนว่าการเกิดโรคลมชักในกลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับรายงานว่าสัมพันธ์กับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไร และได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันส่งข้อมูลอันตรายที่เกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาให้กับทาง อย.สหรัฐฯ เนื่องจากคาดว่าจำนวนที่รายงานเข้ามาน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง
นอกจากนี้ นายสก็อต ยังได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาวจากบุหรี่ไฟฟ้า แต่ข้อมูลจากการศึกษาในปัจจุบันกลับมีความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ถึงสารเคมีอันตรายหลายชนิดที่พบในไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นชนิดเดียวกับที่พบในบุหรี่มวน
นายแมทธิว เมเยอร์ (Matthew L Myers) ประธานโครงการรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ในเด็ก หรือ Campaign for Tobacco-Free Kids ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศทั่วโลกช่วยกันปกป้องเยาวชนจากภัยของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยเน้นให้ทุกประเทศมีการตรวจสอบความปลอดภัยของบุหรี่ไฟฟ้า หลังพบบุหรี่ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมในหมู่เยาวชน และทำให้เยาวชนเสพติดจากสารนิโคตินที่มีปริมาณสูง โดยยกตัวอย่างบุหรี่ไฟฟ้า JUUL ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นอเมริกัน พบว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 1 หลอดมีปริมาณนิโคตินสูงเท่ากับบุหรี่ 20 มวน
นายแมทธิว ได้เรียกร้องให้ FDA ประเทศสหรัฐอเมริกาเร่งดำเนินการให้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภทต้องผ่านการตรวจสอบของ FDA ก่อนที่จะวางจำหน่ายได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าใดได้รับการรับรองจาก FDA และได้กล่าวย้ำว่ามาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าโดยควบคุมกลิ่นและรสชาติของบุหรี่ไฟฟ้าไม่เพียงพอที่จะปกป้องเด็กและเยาวชน โดยพบว่าขณะนี้บริษัทบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังใช้กลยุทธ์ที่บริษัทบุหรี่เคยใช้เพื่อดึงดูดเด็กและเยาวชนให้เสพติด เช่น การใช้ดาราที่มีอิทธิพลกับวัยรุ่น การให้สปอนเซอร์จัดงานคอนเสิร์ตหรือแข่งกีฬา รวมทั้งการใช้กลิ่นสีรสชาติที่ดึงดูด
ขณะที่ พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกโดย ดร.วีรา ลิวซ่า ดา คอสตา เลขาธิการอนุสัญญาควบคุมยาสูบ ได้ออกมาเตือนว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทบุหรี่นำมาแต่งตัวใหม่ โดยพุ่งเป้าหมายไปที่เยาวชน ที่บริษัทบุหรี่พยายามโฆษณาว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดอันตรายจากบุหรี่ แต่จริง ๆ แล้วกลับทำอันตรายต่อเด็กและเยาวชนโดยนำพาพวกเขาไปสู่สารเสพติดที่มีฤทธิ์เสพติดสูงที่สุด คือ นิโคติน ทั้งนี้ปัจจุบันมีหลายประเทศตระหนักถึงอันตรายของเรื่องนี้และได้ดำเนินการออกมาตรการห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เช่น ฮ่องกง อินเดีย และรัฐซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
5 April 2562
ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์
Posted By Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana
Views, 1529