02 149 5555 ถึง 60

 

แค่ "เกลือสมุทร" ไม่พอ ต้องเกลือเสริมไอโอดีน วันละ 1 ช้อนชา สกัดคอพอก-พร่องไทรอยด์

แค่ "เกลือสมุทร" ไม่พอ ต้องเกลือเสริมไอโอดีน วันละ 1 ช้อนชา สกัดคอพอก-พร่องไทรอยด์

กรมอนามัย ห่วงคนไทยรับสารไอโอดีนไม่พอ โดยเฉพาะ "หญิงท้อง" เหตุต้องการมากกว่าคนทั่วไป ใช้สร้างสมอง-สติปัญญาลูก ย้ำเกลือสมุทรมีไอโอดีนไม่พอ ต้องใช้เกลือเสริมไอโอดีนวันละ 1 ช้อนชา หนุนพ่อครัวแม่ครัวเลือกใช้กับทุกเมนู หลังคนกินอาหารนอกบ้านมากขึ้น

วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานเปิดงานรณรงค์เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ “ร้านอาหารทั่วไทย ร่วมใจใช้เกลือเสริมไอโอดีน” พร้อมรณรงค์ตามร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าให้หันมาใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหาร

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า การขาดสารไอโอดีน เป็นสาเหตุหนึ่งของความพิการทางสติปัญญา รวมถึงโรคคอพอก ซึ่งสถานการณ์ของโรคขาดสารไอโอดีน แม้จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเราเห็นคนเป็นโรคที่เกิดจากการขาดสารไอโอดีนน้อยก็ทำให้เราขาดความตระหนัก ซึ่งจากสถานการณ์เฝ้าระวังโรคขาดสารไอโอดีน ยังพบปัญหาในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะค่อนข้างห่างจากอาหารทะเล และในพื้นที่มีเกลือที่ไม่มีไอโอดีน ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่า ครูมีการตรวจคลำคอนักเรียนพบว่า เด็กบางรายมีก้อนที่คอ ซึ่งต้องมาตรวจสอบดูว่าเป็นโรคคอพอกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นก็ถือว่ามีการขาดสารไอโอดีนมานาน ส่วนอีกกลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์

"คนเราต้องการสารไอโอดีนทุกวันทุกวัย โดยเด็กแรกเกิดถึง 5 ปีต้องการ 90 ไมโครกรัมต่อวัน เด็กอายุ 6-12 ปี ต้องการ 120 ไมโครกรัมต่อวัน เด็กวัยรุ่น-ผู้ใหญ่ ต้องการ 150 ไมโครกรัมต่อวัน แต่หญิงที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรจะต้องการเพิ่มขึ้นไปอีก คือ 250 ไมโครกรัมต่อวัน เพราะต้องการสารไอโอดีนไปช่วยสร้างพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ และถ่ายทอดผ่านน้ำนมไปยังทารกที่ดื่มนมแม่ เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง จึงต้องการมากกว่าวัยทั่วไป แต่คนมักเข้าใจว่าได้รับเพียงพอแล้ว ดังนั้น จึงมีการจัดทำวิตามินรวมเหล็ก ไอโอดีน และกรดโฟลิกให้แก่หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด 6 เดือน ควรทานต่อเนื่องเพื่อให้ได้สารอย่างเพียงพอ หากหญิงตั้งครรภ์ขาดไอโอดีนรุนแรง อาจทำให้แท้ง ทารกพิการแต่กำเนิดปัญญาอ่อน ร่างกายแคระแกร็น ส่วนในผู้ใหญ่หากขาดไอโอดีน จะทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ส่งผลให้เฉื่อยชา อ่อนเพลีย และมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง" พญ.พรรณพิมล กล่าว

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า การรับสารไอโอดีนอย่างเพียงพอ เพียงแค่ใช้เกลือเสริมไอโอดีนวันละ 1 ช้อนชาเท่านั้น ซึ่งเกลือที่มีเลขทะเบียน อย.จะมีการเสริมไอโอดีนทั้งหมด เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้ว่าเกลือบริโภคจะต้องเติมสารไอโอดีน เนื่องจากเกลือทะเลหรือเกลือสมุทรโดยทั่วไปจะมีสารไอโอดีนไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ โดยเกลือสมุทรจะมีปริมาณสารไอโอดีนเพียง 20 มิลลิกรัม ส่วนเกลือเสริมไอโอดีนจะมีไอโอดีน 40 มิลลิกรัม ดังนั้น จึงต้องรับประทานเกลือสมุทรมากถึง 2 เท่า จึงจะได้รับสารไอโอดีนที่เพียงพอ แต่ก็จะเกิดการบริโภคเค็มเกินไป จึงมองว่าใช้เกลือเสริมไอโอดีนที่ราคาก็ไม่ได้ต่างกันมาก การใช้แต่ละครั้งก็ไม่มาก ไม่น่าจะเพิ่มต้นทุนมาก ทั้งยังช่วยให้ได้รับสารไอโอดีนที่เพียงพอในแต่ละวัน ส่วนกลุ่มซอสปรุงรส เช่น ซีอิ๊ว และน้ำปลาเสริมไอโอดีนจะต้องได้รับปริมาณ 3 ช้อนชาต่อวัน

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ปัญหาที่น่าห่วง คือ คนไทยกินข้าวนอกบ้านมากขึ้น ไม่ได้ทำกับข้าวเอง จึงต้องพึ่งผู้ประกอบการร้านค้าในการปรุงอาหารมากขึ้น จึงเป็นที่มาของปีนี้ที่รณรงค์ไปยังผู้ประกอบการอาหาร พ่อครัว แม่ครัว ขอให้ใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหาร เพื่อให้คนไทยหรือผู้บริโภคได้รับสารไอโอดีนอย่างเพียงพอ ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วมช่วยกันได้ในการเพิ่มคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนรุ่นต่อไป เพราะหากได้รับสารไอโอดีนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการได้ ทั้งนี้ ยังได้มอบเกียรติบัตรแก่ทูตไอโอดีน ซึ่งเป็นสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารที่ร่วมสนับสนุนส่งเสริมให้ร้านอาหารในเครือข่ายเลือกใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงประกอบอาหาร หรืออนาคตอาจจะต้องกำหนดให้อาหารสำเร็จรูปต้องใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการผลิตเหมือนต่างประเทศ ซึ่งตรงนี้เป็นอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการควบคุม

พญ.สายพิณ โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวว่า ไอโอดีนเป็นสารตั้งต้นของไทรอยด์ฮอร์โมน ที่นำไปใช้ในการสร้างเซลล์ประสาทสมอง ซึ่งหากหญิงตั้งครรภ์ขาดสารไอโอดีนก็จะไม่เพียงพอในการไปสร้างเซลล์ประสาทแก่ลูก จนทำให้เกิดปัญหาสติปัญญาบกพร่องหรือน้อยลงกว่าคนทั่วไป ซึ่งร่างกายเราผลิตสารไอโอดีนเองไม่ได้ ส่วนที่ระบุว่าไอโอดีนมีอยู่ในอาหารทะเล ข้อเท็จจริง คือ เราต้องการอาหารทำเลจำนวนมากจึงเท่ากับเกลือเสริมไอโอดีน 1 ช้อนชา และจะเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เช่น ปลาทู 1 ตัว เท่า 3 ช้อนกินข้าว โดย 1 ช้อนกินข้าวมีไอโอดีน 15 ไมโครกรัม ดังนั้น ปลาทู 1 ตัวจะได้ไอโอดีนประมาณ 45 ไมโครกรัม จึงต้องกินปลาทูอย่างน้อย 3 ตัวทุกวันจึงจะได้ไอโอดีนเท่ากับเกลือเสริมไอโอดีน 1 ช้อนชา ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกกำหนดว่า ความครอบคลุมของการใช้เกลือเสริมไอโอดีนที่ได้คุณภาพในระดับชีวิตครัวเรือนควรอยู่ที่ร้อยละ 90 แต่จากการสำรวจภาวะการขาดสารอาหาร พบว่า ในปี 2560 การใช้เกลือเสริมไอโอดีนครอบคลุมระดับครัวเรือนเพียงร้อยละ 74.8 และปี 2561 ขยับเพิ่มมาเป็นร้อยละ 78.3 จึงต้องส่งเสริมให้พ่อครัวแม่ครัวหันมาใช้เกลือเสริมไอโอดีนมากขึ้น

ด้าน อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและพิธีกรชื่อดัง กล่าวว่า เดิมเข้าใจว่าเกลือสมุทรมีไอโอดีน แค่ใช้เกลือสมุทรก็เพียงพอแล้ว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เกลือสมุทรมีไอโอดีนไม่เพียงพอกับที่เราต้องการ ต้องใช้เกลือเสริมไอโอดีน ทั้งนี้ อยากให้พ่อครัวแม่ครัวหันมาใช้เกลือเสริมไอโอดีน อย่าเห็นแก่ราคาถูกในการไปซื้อเกลือหรือซอสปรุงรสที่เค็มที่สุด เพื่อเอามาปรุงน้อยๆ โดยที่ไม่ดูว่ามีการเสริมไอโอดีนหรือไม่ และอยากให้มีกฎหมายระบุชัดไปเลยว่าเกลือบริโภคทั้งหมดต้องเสริมไอโอดีน แต่เกลือที่เอาไว้ทำอย่างอื่น เช่น ถนอมอาหาร ล้างอาหาร อาจไม่ต้องเสริมก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงแล้วหากใช้เกลือเสริมไอโอดีนด้วยได้ก็ยิ่งดี โดยสามารถนำมาใช้เกี่ยวกับการอาหารได้หลายอย่าง เช่น ต้มไข่ ต้มกุ้ง ก็ผสมเกลือลงไปในน้ำ แม้กระทั่งการชงกาแฟ หากใช้ปลายช้อนแตะเกลือเสริมไอโอดีนนิดเดียวแล้วนำไปคนกาแฟ ก็จะยิ่งช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น

19 June 2562

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By ์์Nitayaporn/Bungon/Thongpet

Views, 3144

 

Preset Colors