สาวญี่ปุ่นชวนบำบัดเครียด
สาวญี่ปุ่นชวนบำบัดเครียด
ใครๆ ก็ต้องมีความเครียดเกิดขึ้นบ้างไม่มากก็น้อยในแต่ละวัน บางคนเกิดความเครียดมาก กว่าจะหมดไปแต่ละวันๆ ก็แทบจะไม่ไหวแล้ว!!.. ทำงานเหนื่อยวันนี้คงต้องพอแค่นี้ !!
โดยเฉพาะในวันทำงาน ในทุกๆ เช้า พนักงานบริษัททั่วไปต้องรีบเดินทางไปทำงาน ต้องเบียดเสียดกันขึ้นรถไฟไปทำงาน ยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนต้องเจอสภาพรถไฟที่แออัดมากและมีความเร่งรีบเพื่อให้เข้างานตรงเวลา เมื่อไปถึงที่ทำงานแล้วต้องเจอกันงานที่กดดันและเจ้านายที่เข้มงวดอีก ทั้งเพื่อนร่วมงาน ทั้งลูกค้าที่ต้องคอยเอาใจ สาวๆ ที่ต้องทำงานในสภาพเช่นนี้ย่อมเกิดความเครียดขึ้นตลอดเวลา
หากได้ลองสังเกต จะรู้สึกว่าวันที่เครียดและเหนื่อยเช่นนี้ทำให้พลังงานทั้งทางร่างกายและจิตใจเริ่มหมดลงไป ใช่หรือไม่ ? บางคนคิดว่า
เราจะข้ามผ่านวันนี้ได้หรือไม่? บางครั้งคิดอยากจะออกจากบริษัทตามกำหนดเวลาปกติแต่ก็ไม่รู้ว่าจะออกได้ไหม ต้องอยู่ดึกๆ ต้องทำโอที ถ้าออกได้เร็วก็คงจะดีมากแต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ ในระบบการทำงานทุกวันนี้
ดังนั้นวันนี้จะสอนวิธีการบรรเทาความเครียด สำหรับสาวๆ และคนที่ต้องทำงานอย่างคร่ำเครียด เพื่อจัดการให้ความเครียดหมดไปในแต่ละวันๆ
1.นอนหลับพักผ่อนให้มาก ให้เพียงพอในแต่ละคืน
สิ่งง่ายๆ ในแต่ละวันและเป็นอีกวิธีที่ดีที่สุดคือ เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว ต้องผ่อนคลายให้มากที่สุด อาจจะอาบน้ำอุ่นๆ หรือนอนแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ และนอนหลับให้สบาย
เมื่อกลับมาถึงบ้านบางครั้งอาจจะยังไม่ต้องกินข้าวก็ได้ ให้นอนหลับทันที เพราะแม้ว่าเราจะไม่ทานข้าวเย็นสักหนึ่งวันก็ไม่มีผลเสียกับร่างกาย ไม่มีผลกระทบเรื่องสุขภาพ แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย หากได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม จะช่วยทำให้จิตใจปลอดโปร่ง สมองผ่อนคลายเต็มที่จะเป็นอิสระจากความเครียดในเช้าวันรุ่งขึ้นโดยไม่คาดคิด
2. ลองพูดระบายเรื่องที่อึดอัดใจบ้าง
เคยคิดบ้างหรือไม่ว่า นิสัยฉันไม่ดีเลย ฉันเคยถูกลูกค้าติเตียน เช่น
"ลูกค้าติฉันมาแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผล ไม่ตลกไปหน่อยหรือ? "
"เราได้รับข้อร้องเรียนเหล่านี้จากลูกค้าของเรา ไม่ตลกไปหน่อยหรอ? "
อย่างไรก็ตามถ้าเรามีความเครียดเกิดขึ้น ขอให้หาทางระบายมันออกไปบ้าง กล้าพูดสิ่งที่อึดอัดใจ ถ้าได้ระบายออกไปเชื่อว่าในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาเราจะสบายใจขึ้น แต่ว่าห้ามพูดกับคนที่เราปฏิสัมพันธ์ในการทำงานด้วยเชียวนะ เพราะบางทีรู้หน้าไม่รู้ใจ เรื่องที่เราพูดออกไปอาจโดนคิดว่าเรานินทาแบะอาจนำผลเสียมาสู่ตัวเอง
แล้วจะพูดกับใครถึงจะดีที่สุด การที่เราได้ระบายกับใครบางคนไม่ได้หมายถึงบุคคลจริงๆ เท่านั้น อาจจะป็นน้องหมา น้องแมว ต้นไม้ใบหญ้า หรือการเขียนสิ่งที่ไม่ดีบนกระดาษหรือไดอารี่ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่อยากแนะนำ เพราะการระบายสิ่งที่เราอึดอัดออกไปเพื่อให้เราสบายใจนั้นทำให้เราสดชื่นขึ้น เปรียบกับความสว่างของวันพรุ่งนี้ย่อมเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าที่จะปล่อยให้เกิดความมืดของวันนี้
3. ไปนวดผ่อนคลาย
อาจจะต้องใช้เงินอยู่สักหน่อย หางบประมาณสำรองไว้ก่อนจะได้ไม่เครียดซ้ำซ้อนอีก แต่ให้คิดว่าเหมือนเป็นการลงทุนให้ตัวเอง ให้รางวัลตัวเองบ้าง ลองค้นหาร้านที่ดีและจองการนวดที่จะไปวันนี้เสียเลย
เมื่อจิตใจและร่างกายหมดพลังลง จิตใจจะเหนื่อยล้า ร่างกายก็อ่อนแรง ไม่สามารถผ่อนคลายได้ ดังนั้นก่อนอื่นต้องทำให้ร่างกายหายเหนื่อยก่อน
โดยปกติแล้วแม้บางคนคิดว่าตนเองมีร่างกายแข็งแรง แต่คนเราก็ยังมีความเจ็บป่วยทางร่างกายกันได้ โดยไม่คาดคิด การนวดไม่เพียงช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายความตึงของเส้น การได้รับการนวดแบบอโรม่านั้นมีกลิ่นหอมอาจจะใช้กลิ่นของสมุนไพรหรือกลิ่นสดชื่นแบบเปลือกส้ม มะนาว ก็เป็นอีกทางเลือกให้จิตใจผ่อนคลายไปด้วย เพราะสิ่งที่สำคัญคือ การที่เราเข้าใจสถานะของร่างกายและจิตใจของตัวเอง และดูแลให้ดี
4.ให้อภัยกับสิ่งที่เราเคยห้ามตัวเองไว้ก่อนหน้านี้
เช่นที่จริงแล้วเป็นคนที่ชอบทานอาหารขยะ (Junk food) หรืออาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่มีคุณภาพทางโภชนาการ และให้พลังงานสูงมากเกินไป และชอบดื่มเบียร์มากแต่ด้วยช่วงวัยจะกินทุกวันก็ไม่ดี จึงบอกตัวเองมาโดยตลอดว่าห้ามทานอาหารแนวนี้อีก เป็นต้น
แต่ว่าเมื่อคืนรู้สึกเครียดมากๆ จึงอนุญาตตัวเองสักวัน ให้ได้ทำในสิ่งที่ชอบ เมื่อคืนเลยกินแฮมเบอร์เกอร์เซ็ทใหญ่และดื่มเบียร์ด้วย ทำให้รู้สึกมีความสุขมากๆ คืออนุญาตให้ตัวเองได้ทำตามใจชอบบ้าง
และไม่ใช่แค่เรื่องอาหารเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ก็ไม่ควรไปตั้งกฏห้ามตัวเองมากเกินไป เช่น
ปกติเพื่อสุขภาพต้องเดินขึ้นบันได แต่วันนี้รีบขอขึ้นลิฟท์
ตั้งกฏว่าจะไม่ซื้อสินค้าออนไลน์เพราะอาจจะซื้อมากเกินไปแล้ว, แต่เมื่อมองไปที่เว็บไซต์ขายของที่ไรก็ตื่นเต้นและสนุก บางเวลาก็อาจจะปล่อยบ้าง ไม่เข้มงวดเกินไปนัก
คือสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณจะต้องให้อภัยตัวเอง และทำตามที่ใจต้องการบ้าง
นอกจากนี้อาจจะลองใช้เวลาเล่นกีฬาให้เยอะขึ้น เล่นโยคะ หรือออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน หรือบริเวณสวนแถวบ้าน อาจจะเดินไปดูพิพิธภัณฑ์สัตวน้ำหรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ไปดูหนัง ฟังเพลง ลองพยายามที่จะหาทางเลือกของตัวเอง เพราะทั้งหมดเป็น "การเยียวยา" เพื่อให้คุณหลุดจากการเหนื่อยล้าและหักโหมมากเกินไป
27 June 2562
ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์
Posted By Nitayaporn/Bungon/Thongpet/Kanchana
Views, 281