02 149 5555 ถึง 60

 

เผย 3 ปัญหาฉุดรั้งเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ต้นตอปิดกั้นพัฒนาการเรียนรู้

เผย 3 ปัญหาฉุดรั้งเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ต้นตอปิดกั้นพัฒนาการเรียนรู้

สสส. เผย 3 ปัญหาฉุดรั้งเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ต้นตอปิดกั้นพัฒนาการเรียนรู้ และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า

วันที่ 6 ต.ค. 2563 โครงการสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเวทีสานพลังขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชน ผู้ปกครอง และสถานศึกษา รวมทั้งเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่น เข้ามาร่วมกันดูแลและพัฒนาทักษะชีวิต เตรียมความพร้อมการใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ และการใช้ชีวิตในชุมชนและสังคมอย่างมีคุณค่า ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญา ซึ่งจากการสังเคราะห์รูปแบบการจัดการศึกษาสำหรับเด็ก ที่มีความต้องการพิเศษโดยส่วนร่วมของชุมชน พบว่าความต้องการพิเศษหรือความพิการแต่ละประเภท จำเป็นต้องมีวิธีการจัการศึกษาที่แตกต่างกัน

นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า ด้วยจำนวนเด็กที่มีความต้องการพิเศษรวมทั้งประเทศ ที่มีมากกว่าแสนคน จึงต้องมีการประเมินปัญหาที่เกิดขึ้น ผ่านเครือข่ายทั้งคนในพื้นที่ และนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อนำไปสร้างองค์ความรู้ใหม่ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย และที่สำคัญต้องมีการดำเนินการอย่างมุ่งมั่นและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการขยายตัวของโครงการ อันจะช่วยให้ครอบครัวที่มีเด็กพิเศษ สามารถพลิกฟื้นกลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง

ด้าน ดร.พลรพี ทุมมาพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ผลจากการดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2561-2563 นำร่อง 3 พื้นที่ทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคเหนือที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ภาคกลางที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษในวัยเรียน ที่สามารถเข้าเรียนรวมกับเด็กปกติได้

ประกอบด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา 2) เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ 3) เด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์ และ 4) เด็กออทิสติก เป็นกลุ่มที่พบมากในสถานศึกษาและชุมชนทั่วไป รวมทั้งสิ้น 60 คน พบปัญหาสำคัญ 3 ด้าน ที่เด็กที่มีความต้องการพิเศษต้องเผชิญในชีวิต ได้แก่

1. ด้านการคัดกรอง - ปัจจุบันพบว่าเด็กที่มีความต้องการพิเศษจำนวนมาก ไม่ได้รับการคัดกรอง เนื่องจากมีนักจิตวิทยาไม่เพียงพอ ทำให้พัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษไม่ก้าวหน้าสวนทางกับอายุที่เพิ่มมากขึ้น นักเรียนจึงถูกผลักให้ออกจากระบบการศึกษา เพราะอายุเกินและหลุดระบบการศึกษาในที่สุด

2. ด้านความรู้เกี่ยวกับเด็กที่มีความต้องการพิเศษของครูในสถานศึกษา - เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการฝึกอบรม ประกอบการกำหนดมาตรฐานผลการเรียนของนักเรียนปกติ ทำให้ครูต้องให้ความสำคัญกับเด็กปกติก่อน ไม่มีเวลาในการจัดทำแผนการเรียนเฉพาะรายบุคคล (IEP) รวมถึงขาดทักษะเรื่องการคัดกรองนักเรียน ทำให้นักเรียนไม่ได้รับการจัดการเรียนการสอนที่ถูกต้อง

3. ด้านการดูแลลูกกลุ่มที่เป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษของผู้ปกครอง - ส่วนใหญ่พ่อแม่และผู้ปกครอง จะใช้วิธีการเลี้ยงตามวิถีชาวบ้าน โดยมีความเชื่อว่าการมีลูกป็นเด็กพิเศษคือความโชคร้ายและการลงโทษจากบาปกรรม ความคิดดังกล่าวทำให้พ่อแม่ไม่พยายามฝึกฝนพัฒนาทักษะ

“ผลจากดำเนินโครงการพบความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ คือเกิดเป็นเครือข่ายความร่วมมือ มีการรับฟังเสียงและความต้องการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษมากขึ้น ขณะเดียวกันในแง่ของมุมมองและทัศนคติของชุมชน หรือสังคมในพื้นที่ที่มีต่อเด็กก็เป็นไปในเชิงบวก หรือยอมรับในคุณค่าและความสามารถมากขึ้นด้วย ซึ่งในระยะต่อไปสถานศึกษาและชุมชน จะขยายผลการดำเนินงานให้ครอบคลุม ไปยังเด็กในสถานศึกษาหรือพื้นที่เดียวกันโดยไม่แบ่งแยก” ดร.พลรพี กล่าว

8 October 2563

ที่มา ข่าวสด

Posted By Nitayaporn/thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 1026

 

Preset Colors