02 149 5555 ถึง 60

 

How to การรับมือกับความเครียดที่ส่งผลต่อผิว

How to การรับมือกับความเครียดที่ส่งผลต่อผิว

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลจาก Covid-19 และวิธีรับมือกับความเครียดที่ส่งผลต่อผิว

ในช่วงที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อลดความเสี่ยงและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 นั้น ควรระวังเรื่องการสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ รอบตัว เช่น มือจับประตู ราวบันได ปุ่มกดลิฟท์ รวมทั้งการรักษาความสะอาดมืออย่างสม่ำเสมอ แต่ทุกครั้งของการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์นั้น ยิ่งล้าง ผิวยิ่งแห้ง เนื่องจากแอลกอฮอล์จะไปลดแรงตึงผิว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว ผิวจึงขาดสมดุล แห้ง เหี่ยว และลอกได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้การเสพข่าวสถานการณ์ Covid-19 ก็เสี่ยงต่อการเกิดความเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัวจนอาจส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพผิว

แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม และแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ธัญ (THANN) แนะนำการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจาก Covid-19 พร้อมเผยวิธีผ่อนคลายความเครียดว่า ปัจจุบันเรายังต้องดำเนินชีวิตอยู่กับโรคโควิดโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเราจึงต้องปรับตัวและหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น เป็นที่ทราบกันดีว่าการแพร่กระจายของโควิด-19 นั้นจะต้องสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้ออย่างน้ำมูก น้ำลาย ละอองฝอยจากการไอ จาม โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก ปาก และตา ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วย เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างน้อย 1 เมตร ใส่หน้ากากอนามัยให้ครอบคลุมบริเวณจมูกและปาก สำคัญก็คือการหมั่นล้างและทำความสะอาดบริเวณฝ่ามืออยู่เสมอ หลังจากสัมผัส หยิบจับ สิ่งของต่างๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณตา จมูกและปาก

ดังนั้น การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์จึงมีความสำคัญมากที่จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและเชื้อไวรัสที่ติดบนฝ่ามือเราได้ โดยสามารถใช้เทคนิคการล้างมือ 7 ลำดับเพื่อช่วยป้องกันไวรัสโควิด-19 ดังนี้ เริ่มจากการถูฝ่ามือ ถัดมาถูหลังมือ ต่อมาประกบฝ่ามือแล้วถูซอกนิ้ว ขัดหลังนิ้ว ขัดถูนิ้วโป้ง ขัดฝ่ามือด้วยปลายนิ้ว และถูรอบข้อมือ ขั้นตอนการล้างมือดังกล่าวควรใช้เวลาล้างไม่ต่ำกว่า 20 วินาที หากใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ก็สามารถใช้วิธีเดียวกันแล้วรอให้แอลกอฮอล์แห้งจึงจะถือว่าฆ่าเชื้อแล้ว ไม่ต้องเช็ดเจลออกขณะเปียก และแอลกอฮอล์ที่ใช้ต้องเป็น เอทิลแอลกอฮอล์ หรือ ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ ที่มีความเข้มข้นมากกว่า 70% ขึ้นไป แต่ต้องระวังขณะใช้ไม่ควรอยู่ใกล้เปลวไฟ

โรแมนติกยิ่งกว่าคืนไหนๆ ในสไตล์โมเดิร์นไชนีส

5 เคล็ดลับเติมความหวานให้ชีวิตคู่แบบไม่มีวันหมดโปร

การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ เป็นการป้องกันเชื้อโรคที่ดี แต่อาจส่งผลกระทบต่อผิวมือได้ เพราะเมื่อแอลกอฮอล์ระเหยไปจะดูดความชุ่มชื้นจากผิวมือไปด้วย ส่วนการล้างมือด้วยน้ำสบู่ก็สามารถชะล้างน้ำมันเคลือบผิวออกไปทำให้ผิวแห้งได้ หลังจากการใช้เจลแอลกอฮอล์หรือล้างมือด้วยสบู่ ควรเพิ่มขั้นตอนการบำรุงดูแลผิวมือด้วยแฮนด์ครีมหลังการล้างมือทุกครั้ง เพื่อเติมความชุ่มชื้น ป้องกันผิวมือไม่ให้แห้งกร้าน รวมถึงการนวดบริหารมือหลังทาแฮนด์ครีม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตด้วย

นอกจากนี้ การรับข้อมูลข่าวสารเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจก่อให้เกิดความวิตกกังวลและความเครียดได้ ซึ่งส่งผลโดยตรงกับผิวหรืออาการ “ผิวเครียด” เป็นโรคทางจิตวิทยาผิวหนังชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Psychodermatology เกิดจากสภาวะของจิตใจหรือความเครียดที่ส่งผลโดยตรงต่อสภาพของผิวพรรณ หรืออธิบายอย่างง่ายๆ คือความเครียดไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนบางชนิดออกมามากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายเสียสมดุล ส่งผลเสียต่อกระบวนการทำงานของร่างกายและผิวพรรณ อย่างเช่น มีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำลง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดเป็นผื่น ระคายเคือง เป็นสิว ติดเชื้อได้ง่าย และยังกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanin) ทำให้หน้าหมอง ฝ้า กระ เข้มขึ้นได้ อีกทั้งยังส่งผลยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนแห่งความหนุ่มสาวโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ทำให้ผิวแห้งกร้าน เกิดริ้วรอย หย่อนคล้อยได้ง่ายอีกด้วย

สำหรับวิธีรับมือกับความเครียดนั้น ควรเริ่มจากการสำรวจตัวเองก่อนแล้วลองวิเคราะห์หาสาเหตุของความเครียดนั้น เพื่อหาแนวทางจัดการอย่างเหมาะสม หาวิธีผ่อนคลายตามแบบที่ตัวเองชอบ อย่างเช่น การใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) ดนตรีบำบัด นั่งสมาธิสวดมนต์ ออกกำลังกายเบาๆ ดูหนัง ฟังเพลง ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ส่วนวิธีการสังเกตุตัวเองง่ายๆ ว่าเราติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่นั้น สังเกตได้จากการมีไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการไอแห้ง อ่อนเพลีย สูญเสียความสามารถในการรับรสและกลิ่น โดยเฉลี่ยแล้วผู้ที่ติดเชื้อจะแสดงอาการภายใน 5-6 วัน แต่ก็อาจใช้เวลานานถึง 14 วันจึงจะแสดงอาการก็ได้ แต่หากมีอาการไอเพียงอย่างเดียว จะมีสาเหตุมาจากฝุ่นและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

8 February 2564

ที่มา โพสต์ทูเดย์

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 1015

 

Preset Colors