02 149 5555 ถึง 60

 

ส่อง สายพันธุ์โควิด ตัวไหนเข้าไทยแล้วบ้าง? พร้อมเช็ค อาการโควิด แยกตามสายพันธุ์

ส่อง สายพันธุ์โควิด ตัวไหนเข้าไทยแล้วบ้าง? พร้อมเช็ค อาการโควิด แยกตามสายพันธุ์

ส่อง 5 ‘สายพันธุ์โควิดกลายพันธุ์’ ประเทศไทยมีตัวไหนบ้าง รุนแรงขนาดไหน วัคซีนไหนที่รับมือได้บ้าง?

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทย ณ วันนี้ยังคงเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่องเกือบ 14,000 ราย สภาพโดยรวมยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันตนเองกันอย่างสูงเพื่อไม่ให้ตนเองเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อ

ในขณะเดียวกันทั่วโลกพบสายพันธุ์โควิดที่กลายพันธุ์แล้วจำนวน 11 สายพันธุ์ โดยประเทศไทยเองก็มีสายพันธุ์โควิดกลายพันธุ์อยู่ไม่น้อย ซึ่งมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนดู “เปิดไทม์ไลน์ 5 สายพันธุ์โควิดกลายพันธุ์ ประเทศไทยมีสายพันธุ์ไหนบ้าง ความรุนแรงเป็นอย่างไร และวัคซีนยี่ห้อไหนที่รักษาได้บ้าง?”

(ข้อมูลรวบรวม ณ วันที่ 22 ก.ค. 64)

เปิดไทม์ไลน์ โควิดสายพันธุ์กลายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทย

(ตั้งแต่ มกราคม 2563 - กรกฎาคม 2564)

สายพันธุ์ที่ 1: สายพันธุ์อู่ฮั่น (Serine)

รหัสไวรัส: S

พบครั้งแรกใน: อู่ฮั่น ประเทศจีน

เข้าสู่ประเทศไทย: มกราคม 2563

การระบาดในไทย: ผู้หญิงซึ่งมีอาการติดเชื้อเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นเข้าประเทศไทย โดยเชื้อไวรัสโควิดได้กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ คลัสเตอร์สนามมวยที่ลุมพินี ราชดำเนิน และอ้อมน้อย

ลักษณะอาการ-ความรุนแรง: อาการทั่วไปสามารถมีไข้ ไอแห้ง อ่อนเพลีย หากมีอาการรุนแรงจะมีลักษณะหายใจลำบาก-หายใจถี่ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก สูญเสียความสามารถในการพูดและเคลื่อนไหว

สายพันธุ์ที่ 2: เบตา (Beta)

รหัสไวรัส: B.1.351

ไวรัสประเภท: สายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล (Variant of Concern; VOC)

พบครั้งแรกใน: ประเทศแอฟริกาใต้

เข้าสู่ประเทศไทย: มกราคม 2564

การระบาดในไทย: พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เบตารายแรกในไทยเป็นบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศแทนซาเนีย เป็นประเทศที่อยู่บนชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา

ลักษณะอาการ-ความรุนแรง: ระบาดรวดเร็ว แพร่เชื้อไวขึ้นราว 50% ลดประสิทธิภาพแอนติบอดี้

ทำให้มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เจ็บคอ ท้องเสีย ปวดศีรษะ ตาแดง รับรส-รับกลิ่นผิดปกติ และมีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนัง หรือนิ้วมือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี

เมื่อโควิดลงปอด จะหายใจลำบาก หายใจถี่ มีเสมหะในปอด เจ็บหน้าอก และสูญเสียความสามารถในการพูดและเคลื่อนไหว

วัคซีนที่รักษาได้ดี:

Pfizer/BionTech: ป้องกันโรค 86% ป้องกันติดเชื้อ 82%

Moderna: ป้องกันโรค 89% ป้องกันติดเชื้อ 85%

AstraZeneca: ป้องกันโรค 35% ป้องกันติดเชื้อ 31%

Johnson & Johnson: ป้องกันโรค 64% ป้องกันติดเชื้อ 57%

Spunik-V: ป้องกันโรค 59% ป้องกันติดเชื้อ 52%

Novavax: ป้องกันโรค 49% ป้องกันติดเชื้อ 43%

Sinopharm: ป้องกันโรค 47% ป้องกันติดเชื้อ 41%

ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยิ่งวิกฤติ! พบเสียชีวิต 114 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 14,575 ราย

'ติดเชื้อโควิด 19' ชลบุรีวันนี้ยอดพุ่ง 669 ราย เสียชีวิตเพิ่มสะสม 92 ราย

ประกาศ 'กรมอุตุนิยมวิทยา' ฉบับที่ 16 พายุดีเปรสชัน 'เจิมปากา'

สายพันธุ์ที่ 3: อัลฟา (Alpha)

รหัสไวรัส: B.1.1.7

ไวรัสประเภท: สายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล (Variant of Concern; VOC)

พบครั้งแรกใน: สหราชอาณาจักร

เข้าสู่ประเทศไทย: เมษายน 2564

การระบาดในไทย: มีการแพร่กระจายเริ่มต้นจากคลัสเตอร์ทองหล่อ จากนั้นแพร่กระจายครอบคลุมไปเกือบทุกจังหวัด

ลักษณะอาการ-ความรุนแรง: แพร่กระจายง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น 40-70%

มีไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย ปวดตามร่างกายและศีรษะ และการรับรส-ได้รับกลิ่นผิดปกติ

วัคซีนที่รักษาได้ดี:

Pfizer/BionTech: ป้องกันโรค 91% ป้องกันติดเชื้อ 86%

Moderna: ป้องกันโรค 94% ป้องกันติดเชื้อ 89%

AstraZeneca: ป้องกันโรค 74% ป้องกันติดเชื้อ 52%

Johnson & Johnson: ป้องกันโรค 72% ป้องกันติดเชื้อ 72%

Spunik-V: ป้องกันโรค 92% ป้องกันติดเชื้อ 81%

Novavax: ป้องกันโรค 89% ป้องกันติดเชื้อ 79%

Sinopharm: ป้องกันโรค 73% ป้องกันติดเชื้อ 65%

สายพันธุ์ที่ 4: แกมมา (Gamma)

รหัสไวรัส: P.1

ไวรัสประเภท: สายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล (Variant of Concern; VOC)

พบครั้งแรกใน: ประเทศบราซิล

เข้าสู่ประเทศไทย: พฤษภาคม 2564

การระบาดในไทย: พบในผู้ที่เดินทางกลับมาประเทศไทย ในสถานกักกันของรัฐรายหนึ่ง

ลักษณะอาการ-ความรุนแรง: รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง มีความสามารถแพร่ระบาดวนเวียนอยู่ในหมู่คนที่ได้รับวัคซีนแล้วได้ด้วย แม้พื้นที่นั้นๆจะมีการฉีดวัคซีนที่สูงก็ตาม (ลดประสิทธิภาพวัคซีน)

วัคซีนที่รักษาได้ดี:

Pfizer/BionTech: ป้องกันโรค 86% ป้องกันติดเชื้อ 82%

Moderna: ป้องกันโรค 89% ป้องกันติดเชื้อ 85%

AstraZeneca: ป้องกันโรค 35% ป้องกันติดเชื้อ 31%

Johnson & Johnson: ป้องกันโรค 64% ป้องกันติดเชื้อ 57%

Spunik-V: ป้องกันโรค 59% ป้องกันติดเชื้อ 52%

Novavax: ป้องกันโรค 49% ป้องกันติดเชื้อ 43%

Sinopharm: ป้องกันโรค 47% ป้องกันติดเชื้อ 41%

สายพันธุ์ที่ 5: เดลตา (Delta)

รหัสไวรัส: B.1.617.2

ไวรัสประเภท: สายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล (Variant of Concern; VOC)

พบครั้งแรกใน: ประเทศอินเดีย

เข้าสู่ประเทศไทย: พฤษภาคม 2564

การระบาดในไทย: พบในคลัสเตอร์แคมป์คนงานหลักสี่ จากนั้นแพร่กระจายเป็นวงกว้างไปทั่วทุกพื้นที่ในปัจจุบัน และเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศไทย

ลักษณะอาการ-ความรุนแรง: ระบาดเร็ว แพร่เชื้อง่าย หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน (ทั้งนี้ประเทศไทยยังไม่เจอสายพันธุ์เดลตาพลัสเพิ่มเติม)

จะมีอาการปวดหัว เจ็บคอ มีน้ำมูก ไม่ค่อยพบการสูญเสียการรับรส และอาการคล้ายเป็นหวัดธรรมดา

วัคซีนที่รักษาได้ดี:

Pfizer/BionTech: ป้องกันโรค 86% ป้องกันติดเชื้อ 82%

Moderna: ป้องกันโรค 89% ป้องกันติดเชื้อ 85%

AstraZeneca: ป้องกันโรค 35% ป้องกันติดเชื้อ 31%

Johnson & Johnson: ป้องกันโรค 64% ป้องกันติดเชื้อ 57%

Spunik-V: ป้องกันโรค 59% ป้องกันติดเชื้อ 52%

Novavax: ป้องกันโรค 49% ป้องกันติดเชื้อ 43%

Sinopharm: ป้องกันโรค 47% ป้องกันติดเชื้อ 41%

23 July 2564

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 16915

 

Preset Colors