02 149 5555 ถึง 60

 

สธ. จ่อบูสเตอร์โดสสำหรับประชาชน 3 ล้านคน ก.ย.นี้ ย้ำต้อง WFH ต่อ ขอเวลา 1 เดือน ผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม

สธ. จ่อบูสเตอร์โดสสำหรับประชาชน 3 ล้านคน ก.ย.นี้ ย้ำต้อง WFH ต่อ ขอเวลา 1 เดือน ผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม

สธ. ยันคนไทย 3 ล้านคน ได้ฉีดเข็ม 3 "แอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์" ปลายเดือนหน้า แม้สถานการณ์โควิด-19 ไทยเริ่มชะลอตัว แต่ทุกคนยังต้องมีการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ย้ำต้อง Work from Home ต่อ ขอเวลา 1 เดือน ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มอีก

วันนี้ (29 ส.ค.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 มีการชะลอตัว ล่าสุดทาง ศบค. ก็เห็นชอบการผ่อนคลายกิจกรรมบางส่วน เช่น สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้าน สำหรับห้องปิด มีเครื่องปรับอากาศก็อนุญาตนั่งได้ร้อยละ 50 ของความจุพื้นที่ สำหรับร้านเปิดโล่งก็อนุญาตที่ร้อยละ 75 ซึ่งยังไม่มีการปรับพื้นที่สี ยังคงยึดใน 29 จังหวัด ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับมาตรการอื่นๆ ยังคงต้องเข้มข้นต่อไป โดยเฉพาะการทำงานจากที่บ้าน ก็ขอให้ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องอีกสัก 1 เดือน เพื่อพิจารณาตัวเลขผู้ติดเชื้อว่าลดลงไปในระดับใด หลังจากนั้น จึงจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการอื่นเพิ่มเติม และที่สำคัญคือ ทุกคนต้องปฏิบัติมาตรการ Universal Prevention for COVID-19 ด้วยการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด

“คิดเสมอว่า คนใกล้ตัวอาจเป็นคนติดเชื้อและเราเองก็อาจเป็นคนแพร่เชื้อได้ ดังนั้น ต้องเข้มงวดมาตรการ DMHTT ต่อเนื่อง และเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ มาตรการองค์กรต่างๆ ก็จะต้องเพิ่มในเรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจเร็ว แอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค องค์กรต่างๆ ที่เริ่มผ่อนคลาย ต้องดูเรื่องสถานที่ ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก โดยเฉพาะร้านอาหารที่ติดแอร์ รวมถึงพนักงานต้องฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเอทีเคอย่างสม่ำเสมอ ช่วงแรกนี้ ยังไม่บังคับ เพราะการกระจายเอทีเคยังไม่ทั่วถึง แต่ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เชื่อว่าหลายฝ่าย ไม่ว่าจะสมาคมภัตตาคารไทย ร้านค้า ก็ยินดีร่วม และเดือนหน้าจะมีเอทีเคมากขึ้น โดยสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานการดำรงชีวิของคนไทยต่อไป” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาสกล่าว อีกว่า สำหรับวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ของประชาชนทั่วไปนั้น ล่าสุดทางอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 มีมติให้เริ่มทำการฉีดในช่วงปลายเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 ซึ่งจะเป็นวัคซีนชนิดใด ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์วัคซีนที่มีอยู่ในขณะนั้น ส่วนผู้ที่จะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีประมาณ 3 ล้านคนทั่วประเทศ” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาส กล่าวว่า ในวันนี้มีการประชุมอนุกรรมการติดตามกำกับการทำงาน ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งจะมีการเน้นย้ำการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ควบคุมแคมป์ การเฝ้าระวังการจัดทีมปฏิบัติการเชิงรุก หรือซีซีอาร์ ทีม (CCRT Team) ให้เกิดความต่อเนื่องด้วย

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเข็มที่ 3 เบื้องต้นจะเป็นแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่วัคซีนทั้งสองยี่ห้อมีปริมาณมากพอ ทั้งนี้ ใน 3 ล้านคนของผู้ที่จะได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มานานไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแล้ว

30 August 2564

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 1747

 

Preset Colors