02 149 5555 ถึง 60

 

กรมสุขภาพจิต ชูแคมเปญ “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” เนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกประจำปี 2564

กรมสุขภาพจิต ชูแคมเปญ “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” เนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกประจำปี 2564

กรมสุขภาพจิต ชูแคมเปญ “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” เนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกประจำปี 2564 เน้นทุกคนร่วมมือกันสร้างและส่งต่อความหวัง เพื่อลดความสูญเสียด้านสุขภาพจิต

วันนี้ (9 ก.ย.) กรมสุขภาพจิตเดินหน้ารณรงค์ประชาสัมพันธ์ด้านสุขภาพจิตเนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกประจำปี 2564 หรือ World Suicide Prevention Day 2021 โดยผลักดันแคมเปญ “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของความหวังและพลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ สามารถสร้างความหวังจาก สิ่งเล็กๆ น้อยรอบตัวและส่งต่อให้คนรอบข้างเพื่อพบกันในวันพรุ่งนี้ด้วยสุขภาพจิตที่ดีและลดการสูญเสียจากการฆ่าตัวตาย พร้อมกิจกรรมแถลงข่าวการเสวนาออนไลน์ และกิจกรรมกับภาคีเครือข่ายทั่วประเทศอีกมากมายตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน เป็นต้นไป

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในช่วงวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกประจำปี 2564 หรือ World Suicide Prevention Day 2021 ซึ่งตรงกับวันที่ 10 กันยายนของทุกปี กรมสุขภาพจิตได้ผลักดันและรณรงค์เพื่อสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดีเพื่อลดการสูญเสียจากการฆ่าตัวตายในประเทศไทย โดยในปีนี้เป็นปีที่ประชาชนต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมหาศาลหลายคนรู้สึกหมดหวังและท้อแท้จากสถานการณ์ที่ต่อเนื่องยาวนานเกิดภาวะเหนื่อยล้าจากโรคระบาดและปัญหาด้านสุขภาพจิตตามมาอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก กรมสุขภาพจิตเล็งเห็นว่า การที่ทุกคนในสังคมสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความหวังและพลังใจ เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการฝ่าฟันวิกฤตในครั้งนี้

กรมสุขภาพจิตจึงผลักดันแคมเปญ “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงการสังเกตตนเองว่ามีความเสี่ยงในการรู้สึกสิ้นหวังหรือไม่ โดยสามารถสังเกตได้จาก

1. ความคิดและความรู้สึกที่สุดขั้ว เช่น รู้สึกไร้ทางออกโดยสมบูรณ์ รู้สึกผิดอย่างไม่สามารถให้อภัยได้ หรือโกรธเกลียดอย่างรุนแรง ซึ่งความคิดและความรู้สึกเช่นนี้เป็นปัจจัยนำไปสู่การสิ้นหวังหรือหมดใจได้ง่าย

2. รู้สึกยอมแพ้ไปหมด เชื่อมั่นว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว อาจบ่นและตำหนิมากขึ้นแต่ขาดแรงที่จะเดินเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น

3. แยกตัวจากสังคม ซึ่งยิ่งแยกตัวมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ตัวเราเองนั้นจมอยู่กับความเชื่อและความสิ้นหวังของตนเองมากขึ้น การตัดขาดจากสังคมจะนำไปสู่ความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าที่มากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้รู้สึกสิ้นหวังมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งหากเราหรือคนใกล้ชิดมีความเสี่ยงต่าง ๆ เหล่านี้ อาจนำไปสู่ความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียด้านสุขภาพจิตและการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายได้ในที่สุดการสร้างความหวังและพลังใจในสถานการณ์ที่ยากลำบากและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก แต่ทุกคนมีศักยภาพในการสร้างความหวังให้ตนเองและส่งต่อให้คนอื่นได้ โดยมีแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

1. สำรวจความคิดและอารมณ์ของตนเอง โดยหากมีลักษณะสิ้นหวังหรือสุดขั้ว ให้ลองพยายามปรับมุมมองและพยายามควบคุมความคิดและอารมณ์ให้คงที่เท่าที่จะทำได้

2. จัดการในสิ่งที่พอจัดการได้ โดยเริ่มแบ่งสัดส่วนของปัญหาต่าง ๆ โดยเริ่มจัดการเรื่องเล็กน้อยที่พอทำได้ก่อน แล้วจึงขยับไปจัดการเรื่องที่ใหญ่ขึ้น โดยพักเรื่องที่จัดการไม่ได้เอาไว้ก่อน

3. เชื่อมต่อกับคนรอบข้าง โดยเน้นการเปิดใจ พูดคุยกับคนในครอบครัว หรือคนที่สนิทและพร้อมที่จะรับฟัง

4. หาตัวอย่างของความหวัง โดยอาจหาได้จากสื่อต่าง ๆ หรือจากเรื่องราวจากคนรอบข้างที่ผ่านพ้นอุปสรรคมาได้ในอดีต เพื่อให้เชื่อมั่นว่าเราสามารถเติบโตจากวิกฤตได้

5. ช่วยสร้างความหวังให้ผู้อื่น โดยผ่านการทำงานจิตอาสาหรือช่วยเหลือคนที่กำลังยากลำบาก จะทำให้เกิดมุมมองต่อความหวังที่ดีขึ้น

โดยกิจกรรมในวันที่ 10 กันยายน หรือวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกประจำปี 2564 จะประกอบด้วย ในช่วง 11.00 – 12.00 น. เป็นกิจกรรมเสวนาและแถลงข่าวเนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก โดยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ผู้แทนสื่อมวลชน และผู้แทนภาคประชาชน จากนั้นในช่วง 18.00 – 19.00 น. จะมีการเสวนาออนไลน์ผ่านทาง TikTok ร่วมกับ KOLs ในหัวข้อ “See You Tomorrow แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้” และปิดท้ายด้วยการเสวนาออนไลน์ผ่านทาง Twitter Spaces ร่วมกับสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย และราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ในหัวข้อ “Creating Hope Through Action รวมพลังสร้างความหวัง” ในเวลา 19.00 – 20.00 น. ทั้งนี้ท่านที่สนใจสามารถติดตามรับชมกิจกรรมดังกล่าวผ่านทาง Facebook, TikTok และ Twitter ของกรมสุขภาพจิต ได้อีกด้วย

10 September 2564

ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 1088

 

Preset Colors