02 149 5555 ถึง 60

 

"โอไมครอน" ติดง่ายแค่ไหน น่ากลัว อาการรุนแรง หรือไม่ เช็ค 10 ข้อ ไม่มองข้าม

"โอไมครอน" ติดง่ายแค่ไหน น่ากลัว อาการรุนแรง หรือไม่ เช็ค 10 ข้อ ไม่มองข้าม

"โอไมครอน" ติดง่ายแค่ไหน เช็ค 10 ข้อต้องรู้ อาการน่ากังวล น่ากลัว รุนแรง หรือไม่ 3 คำถาม - คำตอบ ตรงประเด็นโดย หมอยง ครบจบที่นี่

เกาะติด "โอไมครอน" โควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron (โอมิครอน) โควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับสถานการณ์ โควิด-19 ให้เป็นระดับ 4 จากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นสูงแบบก้าวกระโดด โดยการกลายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ของยีนมากถึง 50 กว่าตำแหน่ง โดย 32 ตำแหน่งเกิดขึ้นบนโปรตีนหนามแหลม หรือที่เรียกว่า Spike Protein ซึ่งเป็นโปรตีนที่ไวรัสใช้ในการเข้าสู่เซลล์ร่างกายมนุษย์ ซึ่งพบมากกว่าทุกสายพันธุ์ และมากกว่าสายพันธุ์เดลตา ถึง 2 เท่า และพบการกลายพันธุ์ที่ส่วนตัวรับ ซึ่งไวรัสใช้จับยึดกับเซลล์ของคนเราถึง 10 ตำแหน่ง แล้ว โอไมครอนติดง่ายแค่ไหน

ทำให้เชื่อกันว่า "โอไมครอน" จะสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา

สามารถเข้าสู่ระบบร่างกายมนุษย์ได้ง่ายขึ้น

อาจจะหลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น

มีแนวโน้มต้านประสิทธิภาพวัคซีน

คนที่เคยติดเชื้อ โควิด-19 มีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำได้จากโควิดสายพันธุ์โอไมครอน

ความรุนแรงของโควิดกลายพันธุ์ตัวนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าจะทำให้การเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อรุนแรงขึ้นหรือไม่

แพทย์หญิง อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยข้อมูลอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron (โอมิครอน) ในประเทศไทย ที่มีอาการ 41 ราย โดย 8 อาการที่พบมากที่สุด คือ

อาการไอ 54%

เจ็บคอ 37%

มีไข้ 29%

ปวดกล้ามเนื้อ 15%

มีน้ำมูก 12%

ปวดศีรษะ 10%

หายใจลำบาก 5%

ได้กลิ่นลดลงมีเพียง 2%

นายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงอาการของผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน จากข้อมูลที่รวบรวมทั้งต่างประเทศ และในประเทศ ขณะนี้ เบื้องต้น อาการไม่แตกต่างจากอาการ โควิด-19

ส่วนใหญ่มีอาการของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน คือ มีไข้ เจ็บคอ และไอแห้ง ๆ

เกือบทุกประเทศรายงานตรงกันว่า ความรุนแรงไม่มากเท่าเดลตา

หลายประเทศบอกว่า รุนแรงน้อยกว่าเดลตาพอสมควร

พบบางรายมีอาการปอดอักเสบ แต่ไม่มากนัก

สำหรับการรักษาในประเทศไทย ให้ยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ภายใน 3 วัน (24 - 72 ชั่วโมง) พบว่า ผู้ป่วยอาการดีขึ้น และหายเป็นปกติ

10 ข้อต้องรู้ "โอไมครอน" โควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron (โอมิครอน)

เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในระดับน่ากังวล (Variants of concern: VOC) มีรหัสไวรัสเป็น B.1.1.529 พบครั้งแรกที่ แอฟริกาใต้ มีการระบาดลามไปในหลายประเทศทั่วโลกแล้ว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ผู้ที่มีความเสี่ยงจะติดไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ในขั้นต้นมักจะมีอาการดังต่อไปนี้ เช่น ไอ , เจ็บคอ , มีไข้ , ปวดกล้ามเนื้อ , มีน้ำมูก , ปวดศีรษะ , หายใจลำบาก , ได้กลิ่นลดลง

ข้อมูลอัปเดตอาการใหม่ของโอไมครอนที่สามารถพบได้เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ เหนื่อย , อ่อนเพลีย , ไอแห้ง และเหงื่อออกมากในเวลากลางคืน

โอไมครอนสามารถกลายพันธุ์ได้ถึง 50 ตำแหน่ง สามารถติดเชื้อไวรัสโควิดซ้ำได้ ไวรัสจะยึดกับเซลล์ของคนได้มากกว่า 10 จุด และยังสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันมนุษย์ได้ดี

หากเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน โควิด-19 หรือเป็นผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนแล้ว เสี่ยงต่อการติดสายพันธุ์โอไมครอนได้โดยง่าย ควรระวังตนเองให้มาก

โอไมครอนสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจและหลอดลมได้ดีกว่าสายพันธุ์เดลตาถึง 70 เท่า แต่หากแพร่กระจายถึงขั้นลงปอด จะไม่ทำลายปอดเท่ากับเดลตา เพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้มักอยู่ในทางเดินหายใจส่วนบน

สายพันธุ์โอไมครอน แม้ว่าจะติดง่าย และพบการเสียชีวิตน้อย แต่อาจเกิดภาวะของคนที่หายจาก โควิด-19 (Long COVID) ตามหลังมาได้ โดยระบบการหายใจ หรือระบบอื่น ๆ ของร่างกายอาจเปลี่ยนไปจากเดิม หรืออาจมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงในระยะยาว

หากได้รับวัคซีนชนิด mRNA 3 เข็มติดกัน (เช่น โมเดอร์นา หรือ ไฟเซอร์) จะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโอไมครอนได้ถึง 60 - 70%

หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูง จำนวน 3 ชั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันโอไมครอนได้

ไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน สามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้ด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ใน 24 - 72 ชั่วโมง

ทั้งนี้ หมอยง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ Yong Poovorawan 3 คำถาม - คำตอบ น่ารู้ ดังนี้

การติดต่อง่ายจริงหรือ

ง่ายครับ สมัยระบาดระลอกแรกสายพันธุ์อู่ฮั่น มีผู้ติดเชื้อ 1 คน นั่งกินเหล้าเฉลิมฉลองด้วยกัน 7 คน จะมีคนติดเชื้อไป 1 - 2 คน

พอมาสายพันธุ์เดลตา นั่งกินเหล้ากัน 10 คน จะติดเชื้อไป 6 - 7 คน

สายพันธุ์โอไมครอน ตัวอย่างที่เห็น นั่งเฉลิมฉลองกัน 11 คน มี 1 คน กลับจากฝรั่งเศส ติดเชื้อไปครบทั้ง 10 คนเลย เป็นการพิสูจน์การติดง่ายแน่นอน

หลบหลีกภูมิต้านทานของวัคซีน

ข้อมูลชัดเจนแล้วว่า ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไม่ว่ายี่ห้ออะไร ไม่มีวัคซีนเทพแน่นอน ติดเชื้อกันได้ถ้วนหน้า

จำเป็นจะต้องอาศัยเข็ม 3 ในการยกระดับภูมิต้านทานที่สูงขึ้น เพื่อใช้ในการต่อสู้

ผู้ที่ได้ 3 เข็มมานานแล้ว ภูมิต้านทานจะตกลงตามกาลเวลา เมื่อภูมิต้านทานตกลง ก็จะติดเชื้อได้

รวมทั้งผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน มีภูมิต้านทานทั้ง 2 ระบบ T และ B cells อย่างดี ก็ยังติดเชื้อซ้ำได้ แน่นอนผู้ที่มีภูมิต้านทานอยู่แล้ว อาการของโรคก็จะน้อยลง

ความรุนแรงของโรค

ข้อมูลที่ออกมาเริ่มเห็นชัดเจนขึ้น การติดเชื้อโอไมครอน ความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา

จากการศึกษาในแอฟริกาใต้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อต้องเข้านอนโรงพยาบาล น้อยกว่าสายพันธุ์เดลตาถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้านอนโรงพยาบาลแล้วการดำเนินโรคไปจนถึงความรุนแรงไม่แตกต่างกันกับสายพันธุ์เดลตา

การศึกษาในอังกฤษ ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ต้องนอนโรงพยาบาลน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา 15 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน โอกาสที่จะต้องนอนโรงพยาบาลลดลงไปอีก น้อยกว่าครึ่งที่ตรงเข้านอนโรงพยาบาล

การศึกษาในสกอตแลนด์ ก็เช่นเดียวกัน โอไมครอน โอกาสที่จะต้องนอนโรงพยาบาลลดลงไป 2 ใน 3 ส่วนมากจะมีผลจากภูมิต้านทานจากวัคซีนเดิมหรือติดเชื้อ ทำให้ความรุนแรงของโรคลดลง

10 January 2565

ที่มา คม-ชัด-ลึก

Posted By Thongpet/kanchana/Maneewan

Views, 30896

 

Preset Colors