ช่วยด้วย นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี (ตอนที่ 1)
ช่วยด้วย นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี (ตอนที่ 1)
นพ.ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สูง อายุรแพทย์โรคประสาทวิทยา กองจิตเวชและประสาทวิทยา
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
การพักผ่อนที่ถือว่าดีที่สุดนั่นคื การนอนหลับ แต่หากเรานอนน้อยไปหรือนอนมากเกินไปก็ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้เช่นกัน
ความผิดปกติด้านการนอนที่เรามักพบบ่อยนั่นก็คือ โรคนอนไม่หลับ(Insomnia) ซึ่งพบเจอได้บ่อยราว 30-35%ทั่วโลก และเกิดได้ทุกช่วงอายุและเป็นปัญหาสำคัญต่อจิตใจ พฤติกรรม สุขภาพ ทว่ามีความเป็นไปได้มากที่เมื่ออายุมากขึ้น ผู้ที่มีอายุน้อยมักจะมีปัญหานอนหลับยาก ผู้ที่มีอายุมากจะมีปัญหาการนอนหลับให้ได้นานๆ หรือมีปัญหาการตื่นเช้าเกไป
ทำไมถึงนอนไม่หลับ
การนอนหลับไม่เพียงพอมัจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเกิดก่อนหรือหลังเหตูการณ์สำคัญในชีวิต ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอนไม่หลับแบ่งได้จากหลัก 3 P ดังนี้
ปัจจัยเสี่ยง (Predisposing factor) หมายถึง ลักษณะ บุคคลที่ส่งผลให้เกิดภาวะนอนไม่หลับเป็นปัจจัยแฝงที่อยู่ภายในบุคคล เช่น บุคลิกภาพจิตใจ อารมณ์ ความคิด เพศ อายุ โรคร่วม เป็นต้น
ปัจจัยกระตุ้น (Precipitating factor) หมายถึงภายนอกที่มากระตุ้นให้เกิดอาการโดยมีผลต่อบุคคล เช่น สภาพสังคม เศรษฐกิจ การเสียชีวิตของคนใกล้ตัวตัว ช่วงใกล้สอบ การหย่งร้าง เป็นต้น
ปัจจัยที่ทำให้อาการคงอยู่(Perpetuating factor) หมายถึงพฤติกรรมีที่เกิดในผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับซึ่งเกิดขึ้นแล้วคงดำเนินอยู่ เช่น มีความกังวลใจ ความเครียด การดื่มกาแฟก่อนนอน ผลกระทบจากอาการของโรค เป็นต้น
อาการที่แสดง
อาการแสดงในผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับสามารถแบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
อาการช่วงกลางคืน
- นอนหลับยาพบมากในวัยรุ่น
- ตื่นบ่อย
- ตื่นเช้าและไม่สามารถกลับไปนอนได้อีกพบมากในวัยกลางคนถึงผู้สูงอายุ
อาการช่วงกลางวัน
- มีอาการเหนื่อยเพลีย
- สมาธิไม่ดีความจำไม่ดี
- มีปัญหาทางอารมณ์
- ไม่สามารถทำงานต่างๆได้ดี
กฎ 30 นาที เพื่อใช้ประเมินเรื่องการนอนไม่หลับ
- ใช้เวลา>30 นาที จากบนเตียงเข้าสู่การนอนหลับ
- ตื่น> 30 นาที หลังหลับ
- ตื่น> 30 นาที ก่อนเวลาที่ตั้งใจ และ ก่อนจะนอนได้ครบ 6.5 ชั่วโมง
การนอนไม่หลับส่งผลอย่างไร
- มีอาการตื่นเร้าบ่อยครั้ง (hyperarousal) ในช่วงนอน
- มีการทำงานเพิ่มขึ้นของฮอร์โมน hypothalamic – pituitary – adrenal axis (HPA axis)
- มีการทำงานเพิ่มขึ้นของระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น
- มีการเผาผลาญมากขึ้น (หิวมากขึ้น)
- มีอุณหภูมิร่างกายที่สูงกว่าคนที่นอนหลับได้ปกติ
หากนอนไม่หลับติดต่อกันบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้า เพลีย ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดีส่งผลประสิทธิภาพในการควบคุมการทำงานของร่างกายลดลง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างวันได้ง่าย
การวินิจฉัยโรคนอนไม่หลับ
ผู้ป่วยมักมาด้วยความรู้สึกนอนไม่พอ ไม่ว่าจะเป็นด้านคุฯภาพการนอน หรือระยะเวลาการนอนตามด้วยอาการอื่นๆ เช่น นอนไม่หลับไม่สนิท รู้สึกเข้านอนยาก หรือตื่นบ่อยๆ ช่วงกลางคืน นอนหลับได้น้อย หรือตื่นเช้ามากและไม่สามารถกลับนอนได้อีก ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่นเหมือนไม่ได้หลับ โดยมีอาการดังกล่าว≥ 3 คืนต่อสัปดาห์ต่อเนื่องกัน ≥ เดือน
(อ่านต่อตอนหน้า)
หมอชาวบ้าน ปีที่ 43 ฉบับที่ 514 กุมภาพันธ์ 2565
28 February 2565
By STY/Library
Views, 3002