02 149 5555 ถึง 60

 

ลดความเสี่ยงเสริมภูมิคุ้มกันแผนสู้โควิด-19 ของหนุ่มวัย 50+

ลดความเสี่ยงเสริมภูมิคุ้มกันแผนสู้โควิด-19 ของหนุ่มวัย 50+

เรื่องโดย ฤทัยรัตน์ วิทยวิโรจน์

ชีวจิตพามาสัมภาษณ์บุคคลซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงสูง เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ

คุณชิดชนก วิทยวิโรจน์ หนุ่มใหญ่วัย 55 ปี อดีตพนักงานบริษัทซึ่งมีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูงติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นกลุ่มแรกๆ

เขาจะมาเล่าประสบการณ์ผ่านคำถามของเราดังนี้ค่ะ

Q : ทำไมถึงตัดสินใจฉีดวัคซีน

A : “สำหรับผมคือต้องการให้ตัวเองมีภูมิต้านทานต่อโรคระบาดชนิดนี้ให้เร็วที่สุดครับ เนื่องจากมีลูกเล็กและเท่าที่ได้ติดตามข้อมูลข่าวสาร ก็คิดว่าวัคซีนคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการต้านทานการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้

“และเรายังอยู่แถวเขตพื้นที่สีแดงด้วย ซึ่งในตอนนั้นมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน ผมกับภรรยาเลยตัดสินใจกันว่าผมไปฉีดก่อนเพราะเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกับลูกทุกวัน ส่วนตัวแล้วไม่ได้มีความกังวลอะไรเลยเพราะคิดว่าเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองและเป็นการป้องกันให้กับครอบครัวคนที่เรารัก ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อจากโรคร้ายนี้ครับ”

Q : ฉีดที่ไหน อย่างไร

A : “มีรถพระราชทานมาให้บริการตรวจการติดเชื้อเชิงรุกทุกวัน ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมีหน่วยบริการการแพทย์จากสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร จัดส่งทีมแพทย์และพยาบาลมารับบริการฉีดวัคซีนให้ สถานที่ฉีดวัคซีนของผมคือวัดนิมมานรดี

“ผมได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกในวันที่ 20 มีนาคม 2564 เป็นวัคซีนยี่ห้อ ‘ซิโนแวค’ ขั้นตอนของการฉีดเริ่มต้นด้วยการลงชื่อและรอรับบัตรคิวที่เจ้าหน้าที่ให้กรอกข้อมูลสุขภาพ และรับการตรวจคัดกรอง

ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และวัดความดันโลหิต ซึ่งวันนั้นความดันผมสูงถึง 170/95 พยาบาลจึงให้รอพบแพทย์เพื่อประเมินว่าจะเข้ารับการฉีดวัคซีนได้หรือไม่

“ในใจตอนนั้นคิดแค่ว่ากลัวมาแล้วไม่ได้ฉีดมากกว่ากลัวการแพ้วัคซีนพอพบแพทย์ ซักถามประวัติ โรคประจำตัว แล้วประเมิน ปรากฏว่าผ่าน ผมเลยได้ฉีดเข็มแรก หลังจากนั้นพยาบาลให้นั่งรอสังเกตอาการหรือผลข้างเคียงประมาณ 30 นาที แต่ผมอยู่ต่อเกือบ 50 นาที จนแน่ใจแล้วจึงไปขอรับใบนัดหมายครั้งต่อไปจากเจ้าหน้าที่

“เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำว่าเมื่อกลับบ้านแล้ว ถ้ามีอาการปวดบริเวณที่ฉีดประกอบกับถ้ามีอาการไข้ ให้กินยาพาราเซตามอล 1-2 เม็ดแล้วดื่มน้ำเยอะๆ งดออกกำลังกายและงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้คอยสังเกตอาการข้างเคียงอย่างอื่นของตัวเอง เช่น ถ้ามีผื่นแดงหรืออาการชาเกร็งที่รุนแรงให้พบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านตามสิทธิ์ได้ทันที และให้แจ้งว่าฉีดวัคซีนมาวันที่เท่าไหร่ และฉีดที่ไหน”

“อยากบอกทุกคนว่า ไม่ต้องเป็นกังวลและอย่ากลัวการฉีดวัคซีน ขนาดตัวผมเองที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ต้องกินยาควบคุมความดัน ยังฉีดวัคซีนได้ครบโดสแล้วไม่มีอาการแพ้เลย อย่างไรก็ตาม ช่วงกระบวนการพบแพทย์เพื่อแจ้งประวัติโรคประจำตัวและยาที่กินประจำ ต้องแจ้งข้อมูลอย่างครบถ้วน กรุณาอย่าปิดบังข้อมูล เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง”

Q : กลัวไหมที่ใครๆบอกว่าจะแพ้วัคซีน

A : “เนื่องด้วยช่วงที่ผมได้รับการฉีดเข็มแรกถือเป็นช่วงแรกๆของประเทศไทย ที่มีโควตาวัคซีนให้ประชาชนในจำนวนยังไม่มาก จึงยังไม่ค่อยมีข้อมูลของประเภทวัคซีนมากเท่าไหร่ สำหรับผมเองก็หาข้อมูลวัคซีนแต่ละยี่ห้อไปบ้าง แต่ไม่ได้รู้สึกว่าต้องการฉีดยี่ห้อไหน เพียงแค่คิดว่าขอให้ได้ฉีด เพื่อให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันเท่านั้นเองครับ

“สำหรับการเตรียมตัวก่อนฉีดก็ไม่ได้เตรียมอะไรมาก ก่อนวันฉีด 1 วันก็พยายามนอนให้เพียงพอ กินอาหารครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำเยอะๆเท่านั้นเอง หลังฉีดสำหรับผมก็ถือว่าตัวเองจัดอยู่ในเปอร์เซ็นต์คนปกติที่ไม่มีอาการแพ้วัคซีนอะไรเลย มีแค่อาการปวดบริเวณแขนนิดหน่อยแล้วก็หายเป็นปกติ

“ปัจจุบันนี้ผมเห็นว่ามีข้อมูลการเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดวัคซีนเผยแพร่ในสื่อต่างๆมากมาย ให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบและพร้อมรับมือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากครับ สำหรับเข็มที่ 2 ผมได้ฉีดในวันที่ 10 เมษายน 2564 สถานที่ฉีดที่เดิม วัดนิมมานรดี เทคนิคสำหรับการเข้าฉีดเข็มที่ 2 คือ เราต้องเตรียมเอกสารใบนัดให้พร้อม เพื่อความรวดเร็วในการต่อคิวเข้ารับการฉีดวัคซีน

“หลังฉีดเข็มที่ 2 กลับมาบ้านก็ไม่มีอาการข้างเคียงอะไร แถมกินอาหารได้เยอะและนอนหลับสนิทตลอดคืน ต้องถือว่าตัวเองโชคดีที่ไม่มีอาการแพ้วัคซีนเลยครับ”

Q : หลังฉีดวัคซีนทำตัวอย่างไร

A : “ตอนนี้ผมฉีดวัคซีนครบ 2 โดสมาเป็นเวลาสองเดือนแล้วสุขภาพร่างกายปกติมาก ซึ่งตามทฤษฎีภูมิคุ้มกันตัวเราจะถูกกระตุ้นเต็มที่แล้ว แต่ผมก็ไม่ประมาท ยังคงปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มหรือการไปในสถานที่แออัด และเมื่อสัมผัสสิ่งของต่างๆ ให้ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ

“จึงอยากบอกทุกคนว่า ไม่ต้องเป็นกังวลและอย่ากลัวการฉีดวัคซีน ขนาดตัวผมเองที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ต้องกินยาควบคุมความดัน ยังฉีดวัคซีนได้ครบโดสแล้วไม่มีอาการแพ้เลยอย่างไรก็ตาม ช่วงกระบวนการพบแพทย์เพื่อแจ้งประวัติโรคประจำตัวและยาที่กินประจำ ต้องแจ้งข้อมูลอย่างครบถ้วน กรุณาอย่าปิดบังข้อมูล เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง

“อยากให้คนไทยทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อหยุดจำนวนการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น และจะได้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่จนอาจทำให้เชื้อไวรัสนี้ตายหายไป อยากให้เราคำนึงถึงกลุ่มเด็กเล็กและเยาวชนอายุ 0-12 ปี ที่ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนสำหรับเขา

“จึงอยากให้กลุ่มคนวัยทำงาน รวมไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโควตาวัคซีนทำตามหน้าที่ ไปฉีด

วัคซีนให้ครบเถอะครับ”

นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 546 ปีที่ 23 วันที่ 1 กรกฏาคม 2564

23 March 2565

By STY/Library

Views, 376

 

Preset Colors